Skip to main content

Post#5-363: ขัดเอ๋ย...ขัดแย้ง

Post#5-363:
เห็นด้วยมั๊ยครับ...ว่าทุกวันนี้ เราขัดแย้งกับชาวบ้าน ก็ด้วยเรื่องของความเห็นหรือมุมมองเป็นสำคัญ

เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน หรือมีมุมมองที่ไม่ลงรอย...ก็จะนำไปสู่การโต้เถียง และจบลงด้วยการขัดแย้งกันในที่สุด

แล้วจะเป็นไปได้มั๊ยหนอ...ที่เมื่อเรามีความเห็นที่แตกต่างหรือมีมุมมองที่ผิดแผก เราจะไม่ต้องจบด้วยการขัดแย้งเสมอไป?

...

ผมว่าทุกคนรู้ว่า มันเป็นไปได้แน่นอน...

แต่ไม่ใช่ทุกคนเลือกที่จะทำเช่นนั้น

เพราะ ego (หรืออัตตา”) ของเรา มันมักจะกดทับสมอง และกัดกินใจ...จนเราเลือกทำในสิ่งที่ไม่ค่อยจะเข้าท่า ยามเมื่อหันกลับมามองในภายหลังไปเสียทุกที

...

เอาจริงๆ มันก็ยากเอามากๆ ครับ...ที่เราจะเอาชนะในเรื่องของความเห็นหรือมุมมอง โดยไม่คิดเอาชนะ

ฟังดูเหมือนผมกำลังจะชวนคุยเรื่องปรัชญาหน่อยๆ...แต่เปล่าเลยครับ มันเป็นข้อเท็จจริงที่จะทำให้เราเลือกที่จะไม่ขัดแย้ง

จุดสำคัญจึงอยู่ที่ว่า...เรามองออกมั๊ย ว่าอีกฝ่ายมี last stand อยู่ตรงไหน?

ตราบเท่าที่ต่างฝ่ายต่างไม่ข้าม last stand ของกันและกันไป...ความขัดแย้งใดๆ ก็จะยังอยู่ใน scope ที่ไม่รุนแรง

...

คราวนี้ เราจะรู้ได้ยังไง...ว่า last stand น่ะ อยู่ตรงไหน?

ผมก็ไม่รู้หรอกครับ...

เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่อง...แต่ละคู่เจรจา

บอกได้แต่เพียงว่า...ถ้า put oneself into someone’s shoes ได้...ก็เท่ากับชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว

...

อ้าว...แล้วถ้าเราทำอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนอีกฝ่ายเอาแต่ได้...โดยไม่สนใจความต้องการของฝั่งเราเลยล่ะ จะทำยังไง?

ถอยครับ...

ถอยเพื่อที่จะรุกใหม่

เพราะเดินหน้าต่อเมื่อไร...ก็เท่ากับพยายามจะข้าม last stand ของอีกฝ่าย (ที่ถูก ego กัดกินสติ ไปเสียหมดแล้ว)

...ขัดแย้งแบบแตกหักกับคนที่ยึด ego ก็เท่ากับเราก็ยึด ego เสียเอง...จริงมั๊ยล่ะครับ?...

#NoteToSelf:

  • เมื่อต่างฝ่ายต่างก็เอาใจเขามาใส่ใจเรา...เราต่างก็จะหาทางออกที่อีกฝ่ายชนะ โดยที่เราก็ไม่แพ้
  • ความน่ากลัวของ ego ก็คือ มันหนีจากสติของเราได้เร็วมาก...กินโทสะและโมหะเป็นอาหาร
  • ขัดแย้งกับคนไร้สติ...แปลว่าเรามีสติอยู่รึเปล่า? ทะเลาะกับคนบ้า...แล้วเรายังใช่คนดีอยู่หรือ?

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...