Skip to main content

Posts

Showing posts from September, 2013

Post#10: Written Policy & Workflow

Post#10: ผู้บริหารระดับกลาง มักจะประสบปั ญหาที่เราเรียกว่า "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" อยู่บ่อยๆ ส่วนใหญ่ปวดหัวกับการที่ต้องแปล งความต้องการของนายให้ชัด (เพราะนายมักจะสั่งงานเป็นภาพรว ม แล้วเข้าใจคนละอย่างกะเราทุกที)  แล้วก็ปวดหัวต่อว่า จะสั่งให้ลูกน้องไปทำอะไร? ใครเจอแบบนี้บ่อยๆ ก็มีผู้รู้วางแนวทางไว้แบบนี้ 1.ในการแปลงความต้องการของนายให้ชัดและตรงกับเรา (ผู้บริหารระดับกลาง หรือผู้ประสานงาน) ก็ควรเขียนออก มาให้ชัดเจน แล้วต้องเขียนอะไร? ตอบว่า - เขียนเป้าหมาย (หรือความต้องการของนาย) - เขียนกรอบกว้างๆ ในการทำงาน เขียนเป้าหมายกับกรอบกว้างๆ ข้างต้นแล้ว มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า "นโยบาย" (Policy) แล้วก็ไปสรุปกับนาย ว่าตรงกันแล้วนะ จากนั้นก็ 2.เขียนขั้นตอนการทำงานให้ครบถ้ วน ตามกรอบกว้างๆ ที่เขียนในข้อ 1 ซึ่งโดยมากลูกน้องมักจะอ่านสิ่ง ที่เราเขียนไม่ค่อยจะเข้าใจ ก็เลยมีคนคิดรูปแบบคำสั่งคล้ายๆ  "แผนภูมิ" ขึ้นมา ภาษาไทย เรียกว่า "ผังการทำงาน" ไม่คุ้นใช่มั๊ยครับ หรือเรียกว่า "Workflow" นั่นเอง คราวนี้ อยู่ที่ความสามารถของเราแล้ว ว่าตามลูกน้องทันมั๊ย กับ Wor...

Post#9: Preparing Business Plan

Post#9: ช่วงนี้หลายๆ บริษัทกำลังวุ่นอยู่กับ 1.ปิดเป้าการขายปีนี้ 2.ทำแผนธุรกิจปีหน้า สำหรับข้อ 1 ไม่มีอะไรจะบอก นอกจากขอให้ทุกคนโชคดี มีไม้เด็ดอะไรก็คงต้องงัดมาให้หมด ข้ามไปข้อ 2 เลยดีกว่า ต้องเตรียมอะไรบ้าง สำหรับการทำแผนธุรกิจ? ตอบว่า 1.แผนการตลาด (ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการใช้เงิน) 2.แผนการขาย (ส่วนใหญ่จะเป็นแผนหาเงิน) แผนทั้ง 2 คงเขียนไม่ยาก แต่เขียนให้เจ้านาย ok ต้องคำนึงถึงหลายๆ เรื่อง เช่น 1.ตอบโจทย์ใหญ่ที่นายอยากได้หรือไม่ ทั้งด้านเป้าขายและงบประมาณ 2.แผนที่เราเสนอ มีที่มาที่ไปชัดเจน จับต้องและวัดผลได้หรือไม่ สามารถนำไปปฏิบัติได้หรือไม่ 3.แผนที่เราเสนอเปรียบเทียบปีที่ผ่านมา (ปีปัจจุบันที่กำลังทำแผนอยู่) สะท้อนการเติบโตหรือการพัฒนาหรือไม่ เรื่องนี้ต้องว่ากันยาวครับ กลัวจะเบื่อ เลยเล่าสั้นๆ พอสังเขป Post#9: During this period of time, many of the firms are busy with 1.Chasing to hit Target Sales 2.Preparing Business Plan for next year For 1., nothing much to say. Wish you luck, but it's time to open your unrevealed card. We move on to 2. What do we have to p...

Post#8: Unity

Post#8: วันอาทิตย์ผ่อนคลาย นึกถึงวันเก่าๆ กลอนนี้แต่งไว้เกิน 10 ปีแล้ว แต่ยังจำได้ดีเหมือนผ่านมาไม่นาน... อยากให้ทุกคนที่อยู่ในองค์กร รัก และรวมพลังกัน... แต่ละกรวดแต่ละก้อนที่เรียงราย ประกอบกลายเป็นตึกสูงสง่าศิลป์ แต่ละกรวดมาจากร้อยพันแผ่นดิน รวมเป็นหินสง่าขวางกลางคลื่นแรง แต่ละกรวดแข็งแกร่งแบ่งหน้าที่ สามัคคีสงวนสร้างอย่างขันแข็ง แม้คลื่นลมซัดสาดอย่างรุนแรง ก็ไม่อาจแบ่งทำลายสลายลง แต่เมื่อกรวดก้อนหนึ่งสิ้นแรงสู้ ไม่ร่วมอยู่ร่วมสร้างอย่างประสงค์ ก็ถึงคราวตึกสูงค่าไม่อยู่คง ต้องทรุดโทรมจบลงปลดปลงไป อยู่ที่เราช่วยกันสู้ร่วมกันสร้าง ตระหง่านกลางคลื่นซัดไม่สั่นไหว ประกาศก้องจะร่วมอยู่สู้กันไป ช่วยกันสร้างตึกสูงใหญ่ให้แข็งแรง เป็นกำลังใจให้ลูกน้องและเจ้านายของทุกองค์กรครับ... Post#8: It is a relaxing Sunday, remind me about the good old day. I wrote this poem far over 10 years, but it is as if not so long ago... Wish everybody in the organization love one another and become unity... For each and every stone composed To form a shape of fascinating building Each and ev...

Post#7: Learning from our Staff

Post#7: วันสบายๆ กับการแข่งกีฬาสี แต่กลับได้เรียนรู้เยอะมาก และแม้บางเรื่องเราจะรู้อยู่แล้ ว แต่ก็ทำให้มั่นใจในสิ่งที่เรารู้แล้วมากขึ้น 1.เมื่อมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว พลังงานอาจเรียกมาได้อย่างไม่จำ กัด ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ ลูกน้องก็เต็มที่กับเป้าหมายที่ อยู่ตรงหน้าได้ 2.บางครั้ง นายไม่จำเป็นต้องไปวุ่นวายกับน้ องๆ มาก แค่กำหนดกรอบกว้างๆ แล้วปล่อยให้น้องๆ ทำ ผลลัพธ์อาจดีอย่างไม่น่าเชื่อ นายคอยเชื่อใจและสนับส นุนอย่างเหมาะสมก็พอ 3.สถานการณ์ที่บีบบังคับ ทำให้เรามองเห็นว่าน้องๆ คนไหน ฉายแววความเป็นผู้นำ และบางคนมีศักยภาพอีกมากที่ซ่อน ไว้ อยู่ที่นายจะดึงมาใช้ได้อย่างไร เท่านั้น 4.ถ้านายไม่ถอย ลูกน้องจะไม่มีวันยอมแพ้ แต่ถ้านายแหยๆ ลูกน้องจะแย่แน่นอน 5.ไม่ใช่เงินเดือนหรือค่าตอบแทน จะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเสมอไป สำหรับน้องๆ การผูกใจไว้ด้วยใจ อาจมีความหมายยิ่งกว่า 6.ผู้เสียสละเหนื่อยยากจัดงาน (ทีมงาน) ไม่ควรได้รับการมองข้าม สมควรได้รับเสียงปรบมือดังที่สุ ด Post#7: Relaxing with Company Sports Day today, but it is the day I learnt a lot. Even if some points we all knew them well, yet it just like th...

Post#6: Let our staff learn

Post#6: บางครั้ง การอดทนฟังลูกน้องพูด หรืออธิบายงานให้จบ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้อยู่ใ นฐานะ "นาย" หลายๆ คน นายมักจะใช้กรอบประสบการณ์เดิมๆ  ตัดสิน โดยลืมว่า "เวลา", "ทรัพยากรที่ใช้", "คนลงมือทำ" หรือกระทั่ง "สภาพการแข่งขัน" มันต่างไปจากเดิม บางครั้ง ลูกน้องอาจจะยืนยันที่จะทำ เราในฐานะนาย แม้จะรู้ว่าไม่น่ารอด ก็ควรลองให้ทำ (ถ้าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อยู่ในขอบเขตที่รับได้) แต่อยากให้เช็คว่า ขณะที่คุยกันกับลูกน้อง ต้องเตือนตัวเองเสมอๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะ "ผู้พูด" หรือ "ผู้ฟัง" เพราะ "ฟัง" กับ "ได้ยิน" เป็นคนละเรื่องกัน Post#6: Sometimes, to patiently listen to the staff talking or explaining things would be hard for those who called themselves "boss". Boss usually uses his own past experiences to judge, forgot that "timeline", "resources", "executor" or even "market situation" are all NOT the same. There would be a situation in which staff ...

Post#5: Fine Tuning on Goal Setting

Post#5: ความเข้าใจในงานของเราและของลูก น้อง ไม่มีวันเท่ากัน ดังนั้น อย่าตั้งความหวังในผลสำเร็จของง าน จนกว่า เราจะมั่นใจว่า ความเข้าใจของเราและลูกน้องตรงกัน และสำคัญอย่างยิ่งที่เราควรตั้ง เป้าความคาดหวังที่ลูกน้องยอมรั บด้วยความเข้าใจ เรียกว่าเป็นการปรับให้ยอมรับทั้งเราและลูกน้องจะดีกว่าการบังคับ สถานการณ์นี้ คนที่ทำงานเป็นตัวเชื่อมระหว่าง นายและผู้ปฏิบัติงาน ต้องใช้ศิลปะค่อนข้างสูง Post#5: It is almost impossible that we share the same level of Work Clarification to our staff at the beginning. Hence, don't expect the success on goal before we share symmetry of Work Clarification with them. It is also important to set the goal in which they accept by heart. Simply say, to do some fine tuning between them and us, on Work Clarification and Goal Setting, rather than by authority alone. To handle this kind of issue, Middle Managements or the one who is a "Link" between Boss and Executor must possess a high level of interpretation and inter-personal skills.

Post#4: Long-term Plan

Post#4: ในการวางแผนงานที่จะส่งผลต่อเนื่องไปในอนาคตระยะยาวนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเห็นภา พชัดเจนก่อน ว่าปลายทางของแผนงานต้องการผลลั พธ์อย่างไร ส่วนมากจะเน้นในการคิดถึงขั้นตอ นในการทำงานก่อนที่จะคิดถึงผลลั พธ์ สุดท้ายกลายเป็น ขั้นตอนที่ทำงานไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการ ดังนั้น เป้าหมายต้องชัดเจนก่อนลงมือทำ จากนั้นจึงควรกำหนดกรอบคร่าวๆ ในการปฏิบัติงาน เราจะได้เห็นว่า มีขั้นตอนอะไรที่ต้องทำบ้าง ต้อง ใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง เมื่อเห็นภาพร่างคร่าวๆ แล้ว จะได้พิจารณาได้ว่า สิ่งที่จะลงทุนลงแรง คุ้มกับเป้าหมายหรือผลลัพธ์ที่ตั้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องปรับแผน หรือปรับเป้าหมาย ระหว่างที่ทำงาน ขั้นตอนที่คิดไว้อาจมีการปรับเป ลี่ยนได้ตามสถานการณ์หรือสภาพแว ดล้อม สำคัญว่า ในตอนที่ต้องปรับเปลี่ยนแผนงาน แผนใหม่ที่นำมาใช้ ยังคงตอบโจทย์เป้าหมายที่วางไว้ หรือไม่ Post#4: To make long-term planning in which the effect will last long to the future beyond, it is a must to see a clear picture of what will be the outcomes we need. Most of us focus on the Working Procedures rather than the Outcomes, and end up...

Post#1: Difficulty in Planning

Post#1: เป็นเรื่องไม่ยาก ในการวางแผนงาน แต่กลายเป็นเรื่องยากอย่างเหลือ เชื่อ ในการผลักดันให้แผนงานเดินไปได้  โดยเฉพาะเมื่อแผนงานนั้น ต้องเกี่ยวพันกับแผนกอื่น คนอื่น หรือบริษัทอื่นๆ Post#1: It is not difficult to conduct Planning, but it turns unbelievably difficult to make the Plan moves forward. Especially, when the said Plan is linked to other people, other departments or other organizations.

Post#3: KPI

Post#3: การวัดว่างานที่เราหรือลูกน้องทำในแต่ละวัน เป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ มีหลักคิดกว้างๆ คืองานนั้นส่งผลต่อองค์กรหรือไม่ ในการคิดแบบนี้ มีข้อควรระวังในเรื่องการคิดเข้ าข้างตัวเอง ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการที่บริษัทฯ จะต้องกำหนด "ตัวชี้วัด" หรือ KPI (Key Performance Indicator) ขึ้น เพื่อใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงนั่นเอ ง Post#3: To judge whether the jobs we are doing in each and everyday are worth doing, generally speaking, we should be certain that those jobs yield to our organization. Please note that judgement must not be taking for granted, and this is why the Frame of Reference has to be set up; in familiar term, it is KPI (Key Performance Indicator).

Post#2: Cross-functional Tasks

Post#2: ในการประสานงานข้ามหน่วยงาน ถ้าอยากให้งานของเราเร็วขึ้น ลองคิดทางเลือกเผื่อทีมอื่นๆ ดู แต่ย้ำว่า จะทำแบบนี้ได้ ต้องเข้าใจหน่วยงานนั้นๆ ดีในระดับหนึ่งก่อน และพิจารณาด้วยว่า สิ่งที่เราคิดนั้น ถ้าเป็นเราทำ เราจะทำได้หรือไม่ Post#2: Making Cross-functional works with other departments, if we want to haste our tasks, try preparing choices of works for them. To be able to prepare those choices, ones must understand other departments up to one certain degree. Keep in mind that for the choices we offer, will it be practical if we were the one to do them.