Post#5-304:
ว่าอันที่จริง...ผมได้ยินเรื่องของแนวโน้มการยกเลิกการวัดผลงานด้วย KPI มาสักระยะแล้วล่ะครับ
ใครที่ทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ ก็น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องของ KPI เป็นอย่างดี...และบางคนก็เข้าขั้นคุ้นเคยและรังเกียจไปพร้อมๆ กันด้วย :)
เมื่อทำงานแล้ว...ยังไงเสียก็ต้องวัดผลงาน เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางจะรู้ได้ว่า ผลงานดีหรือแย่เพียงใด
...
อ้าว...ก็ในเมื่อการวัดผลสำคัญขนาดนี้ แล้วจะยกเลิก KPI ไปทำไมล่ะ?
หลายๆ องค์กรที่ยกเลิกการวัดผลด้วย KPI ให้เหตุผลว่า...ก็เพราะ KPI ไม่ตอบโจทย์การเติบโตขององค์กร และทำให้เกิดการแบ่งเขตแดนในการทำงาน (Cylo)
อืมม...ตามมุมมองของผม เหตุผลที่ยกมาก็ทั้งไม่ถูกและไม่ผิด
“ไม่ถูก” ก็คือ เรื่องของการไม่ตอบโจทย์ขององค์กร เพราะจริงๆ น่าจะเกิดจากการตั้ง KPI ผิด เป็นสำคัญ
ส่วน “ไม่ผิด” ก็คือ มันอาจจะก่อให้เกิด Cylo ได้จริง แต่ก็เพราะเราขาดการตั้ง Cross-functional KPI เสียมากกว่า
...
เมื่อยกเลิก KPI ไปแล้ว...ก็มีการค้นหาเครื่องมือตัวใหม่มาวัดผล ซึ่งช่วงนี้ กระแสของ OKR กำลังมา
OKR ก็ย่อมาจาก Objective and Key Result...ซึ่งหลังจากผมลอง explore ดูแล้ว ก็พบว่า เนื้อหาสาระก็ไม่ได้ต่างจาก KPI แบบสุดขั้ว
แล้วเท่าที่ทราบ OKR ก็มีมาตั้งนานแล้ว...เพียงแต่ไม่ได้นำมาใช้อย่างแพร่หลายเท่ากับ KPI
ถ้าไม่เป็นการมองโลกในแง่ร้ายเกินไป...จะ OKR หรือ KPI ก็เป็นเพียงเครื่องมือที่ฝรั่งคิดค้นขึ้นมาขายเรา นั่นเอง
เนื้อหาคล้ายเดิม...แต่นำเสนอในรูปแบบใหม่...ประมาณนั้นครับ
สรุปว่า...ประเด็นที่ต้องจำใส่ใจไว้ ก็คือ
...ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือวัดผลตัวไหน...ถ้าไม่จริงจังและใส่ใจ ก็ไร้ค่าเหมือนเดิม นั่นล่ะ...
#NoteToSelf:
- ไม่ว่าจะเรียกเครื่องมือนั้นๆ ว่าอะไร...สุดท้าย เราก็ไม่มีวันเลิกลาจากการวัดผลการทำงานได้
- คิดดีๆ ว่าเครื่องมือในการวัดผลนั้น มีปัญหา...หรือว่าจริงๆ แล้วการตั้งเป้าหมาย มีปัญหา หรือว่าเกิดจากคนที่วัดผลนั่นต่างหาก ที่เป็นปัญหา?
- ถ้าอยากเห่ออะไรตามคนอื่น...ก็คงไม่มีใครห้าม / แต่เอาจริงๆ ก็ต้องสนใจให้มาก ว่า “เครื่องมือวัดผล” ที่เลือกมาใช้นั้น เหมาะกับสภาวะขององค์กรของเราหรือไม่
Comments
Post a Comment