Post#5-322:
เมื่อเกือบสองปีก่อน ผมเคยแชร์เรื่องความน้อยอกน้อยใจของน้องสาว...ที่ทุ่มเททำร้านอาหารอย่างหนัก (Post#3-249)
แต่ดูเหมือนว่า ลูกค้าจะไม่ได้ appreciate กับสิ่งที่เค้าทำเลย
เอาจริงๆ ผมว่าความรู้สึกน้อยใจแบบนี้ มันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคนล่ะครับ...ผมเองก็เป็น
...
ส่วนมากแล้ว ถ้าผมเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นเมื่อไร...ผมมักจะใช้วิธีตรวจสอบกับคนรอบข้างก่อน ว่าตรรกะในการคิดของผม ถูกมั๊ยหนอ?
เมื่อมั่นใจว่าตรรกะของผมถูกต้องแล้ว...ผมก็จะปล่อยให้ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจนั้น มัน “นอนก้น” ก่อน
หลังจากนั้น ผมก็จะทบทวนตัวเองต่อ...ว่าเรามองข้ามจุดไหนไปบ้างรึเปล่า?
...
บ่อยครั้งผมพบว่า เจ้านาย, เพื่อนร่วมงาน, ลูกน้อง, พ่อ-แม่, ลูก หรือแม้กระทั่งคนรัก...ก็อาจจะยัง “ไม่เข้าใจเรา” มากกว่า จะ “เจตนา” ทำร้ายความรู้สึกของเรา
มากหนที่คนรอบข้างเหล่านั้น ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ...
ว่าได้พูดหรือทำอะไรให้เราน้อยใจไปเสียแล้ว
...
ว่ากันตามจริง เรื่องความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่...
แต่ถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราบ่อยๆ...ก็คงไม่ใช่เรื่องดี
เพราะมันเหมือนเราสะกดจิตตัวเองไปเรื่อยๆ...แล้วในที่สุด เราก็เลยพาลเชื่อไปอย่างที่ “จิตฝ่ายอ่อนแอ” มันเชื่อ!
พอใจอ่อนแอ...สมองก็ตีบตัน...จนบ่อยครั้ง ทำให้หลายๆ คน ตัดสินใจอะไรโง่ๆ กันก็มาก
...
ดังนั้น ถ้าพบใครกำลังอยู่ในสภาวะน้อยเนื้อต่ำใจ...แล้วล่ะก็
ผมแนะนำว่า...ให้นั่งฟังเค้าระบายความน้อยใจนั้น ออกมาเสียก่อนครับ
รอให้เค้าระบายให้จบ...แล้วเราจะพอมองออกว่า จะเลือกปลอบใจเค้าด้วยวิธีไหนดี
...เข้าทำนองว่า “น้อยใจ”...ก็ “เติมใจ” เข้าไปนั่นไง!...
#NoteToSelf:
- บ่อยครั้งคนน้อยเนื้อต่ำใจ ก็ไม่ได้ต้องการ “คนช่วยแก้ปัญหา”...แค่อยากได้ “คน “ฟัง”” มากกว่า
- น้อยใจ...มันก็เป็นธรรมดาของคนปกติ...แต่ถอดใจ เป็นธรรมดาของคนขี้แพ้ / ดังนั้น จงเป็นคนปกติ...ก็พอ
- เราเติมกำลังใจให้ใคร...กำลังใจที่เรามี ก็ไม่ลดลง...มีแต่เพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ
* เผื่อใครอยากอ่าน Post#3-249 ก็เชิญที่ http://thecocoonofthoughts.blogspot.com/2016/05/post3-249.html?m=1
Comments
Post a Comment