Post#3-292:
ช่วงนี้ผมกำลังวุ่นๆ วายๆ อยู่กับการจัดโครงสร้างของบริษัทใหม่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่โครงสร้างผู้ถือหุ้นไปจนถึงโครงสร้างการบริหารงาน
ต้องบอกว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสเอาการอยู่...ที่ต้องมาจัดการเรื่องนี้ท่ามกลางสภาพทางเศรษฐกิจที่ผันผวนเสียเหลือเกิน
เนื่องจากหุ้นส่วนของผมเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด...ผมจึงได้แต่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่สามารถจะมอบหมายงานให้หุ้นส่วนคนอื่นไปทำได้
...
เวลาต้องจัดการกับเรื่องวุ่นๆ วายๆ ที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมๆ กัน...สิ่งที่เราต้องคุมให้ดีที่สุด ก็คือ "สติ"
จะคุม "สติ" ให้อยู่ จึงจำต้องหัดให้ตัวเองรู้จักการจัดลำดับความสำคัญของงาน หรือที่เราเรียกว่า Prioritization
จะ prioritize งานได้ เรายังจำเป็นต้องฝึกให้ตัวเราเอง รู้จักการจัดการปัญหาแบบเป็นส่วนๆ เสียก่อน หรือที่เราเรียกว่า Partialization
ลองทบทวนตามผมดู แล้วจะพบว่า ถ้าไม่ Partialization ให้ถูกต้องและเหมาะสม เราก็จะไม่สามารถ Prioritization ได้ดี
...
ที่สำคัญอย่าไปยึดติดว่า เมื่อ Partialization แล้ว ปัญหาหรืองานนั้น จะต้องมีขอบเขตเหมือนเดิมเสมอไป อาจจะเพิ่มหรือลดได้ตามสถานการณ์ที่เราเจอ
และนั่นย่อมทำให้ Prioritization ของเรา จำต้องแปลงสภาพตามไปด้วย...เพื่อให้การแก้ปัญหาหรือการทำงานสอดรับกับสภาพการณ์จริง
นานแล้วที่ผมเคยแชร์ไว้ (Post#30 และ Post#2-58) ว่า ปัญหาก็เหมือนพิซซ่า ที่หม่ำทีเดียวทั้งถาดไม่ได้ เช่นเดียวกับถ้าปัญหาใหญ่และเยอะ ก็แก้เองคนเดียวไม่ไหว...
ปัญหาใหญ่ก็เหมือนพิซซ่าถาดใหญ่ ก็ต้องตัดแบ่งมากชิ้นหน่อย, ถ้ามีอยู่คนเดียวก็ค่อยๆ หม่ำไปเรื่อยๆ...แล้วก็จัดสรรให้ถูกว่าต้องใช้เวลาหม่ำแค่ไหน
แต่ถ้ารู้ตัวว่าหม่ำคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ ก็ต้องหาคนมาช่วยหม่ำ
...แล้วก็เลือกให้ถูกครับ ว่าชิ้นไหนควรหม่ำตอนไหน ส่วนชิ้นที่เหลือ จะให้ใครมาช่วยหม่ำ...
ช่วงนี้ผมกำลังวุ่นๆ วายๆ อยู่กับการจัดโครงสร้างของบริษัทใหม่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่โครงสร้างผู้ถือหุ้นไปจนถึงโครงสร้างการบริหารงาน
ต้องบอกว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสเอาการอยู่...ที่ต้องมาจัดการเรื่องนี้ท่ามกลางสภาพทางเศรษฐกิจที่ผันผวนเสียเหลือเกิน
เนื่องจากหุ้นส่วนของผมเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด...ผมจึงได้แต่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่สามารถจะมอบหมายงานให้หุ้นส่วนคนอื่นไปทำได้
...
เวลาต้องจัดการกับเรื่องวุ่นๆ วายๆ ที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมๆ กัน...สิ่งที่เราต้องคุมให้ดีที่สุด ก็คือ "สติ"
จะคุม "สติ" ให้อยู่ จึงจำต้องหัดให้ตัวเองรู้จักการจัดลำดับความสำคัญของงาน หรือที่เราเรียกว่า Prioritization
จะ prioritize งานได้ เรายังจำเป็นต้องฝึกให้ตัวเราเอง รู้จักการจัดการปัญหาแบบเป็นส่วนๆ เสียก่อน หรือที่เราเรียกว่า Partialization
ลองทบทวนตามผมดู แล้วจะพบว่า ถ้าไม่ Partialization ให้ถูกต้องและเหมาะสม เราก็จะไม่สามารถ Prioritization ได้ดี
...
ที่สำคัญอย่าไปยึดติดว่า เมื่อ Partialization แล้ว ปัญหาหรืองานนั้น จะต้องมีขอบเขตเหมือนเดิมเสมอไป อาจจะเพิ่มหรือลดได้ตามสถานการณ์ที่เราเจอ
และนั่นย่อมทำให้ Prioritization ของเรา จำต้องแปลงสภาพตามไปด้วย...เพื่อให้การแก้ปัญหาหรือการทำงานสอดรับกับสภาพการณ์จริง
นานแล้วที่ผมเคยแชร์ไว้ (Post#30 และ Post#2-58) ว่า ปัญหาก็เหมือนพิซซ่า ที่หม่ำทีเดียวทั้งถาดไม่ได้ เช่นเดียวกับถ้าปัญหาใหญ่และเยอะ ก็แก้เองคนเดียวไม่ไหว...
ปัญหาใหญ่ก็เหมือนพิซซ่าถาดใหญ่ ก็ต้องตัดแบ่งมากชิ้นหน่อย, ถ้ามีอยู่คนเดียวก็ค่อยๆ หม่ำไปเรื่อยๆ...แล้วก็จัดสรรให้ถูกว่าต้องใช้เวลาหม่ำแค่ไหน
แต่ถ้ารู้ตัวว่าหม่ำคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ ก็ต้องหาคนมาช่วยหม่ำ
...แล้วก็เลือกให้ถูกครับ ว่าชิ้นไหนควรหม่ำตอนไหน ส่วนชิ้นที่เหลือ จะให้ใครมาช่วยหม่ำ...
Comments
Post a Comment