Post#3-271:
ผมมาเยือนพม่าหนนี้ด้วยความจำเป็นที่จะต้องบินมาช่วยเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังวางแผนทำงานบางอย่าง
ว่ากันตามจริง แม้ว่างานของผมจะยุ่งวุ่นวายพอดู แต่ก็ไม่อาจดูดายให้เพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลือ ต้องต่อสู้เพียงลำพังได้
ผมเข้าใจความรู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำได้ดี...เพราะผ่านประสบการณ์เสมือนกำลังจะจมน้ำก็หลายครั้ง และแต่ละครั้งก็มีทั้งเพื่อนๆ และพี่ๆ หลายท่าน ยื่นมือมาช่วยไว้ได้ทัน
ดังนั้น ผมจึงไม่ลังเลที่จะช่วยเพื่อนคนไหนก็ตาม...หากว่าจังหวะและโอกาส พร้อมๆ กับความสามารถของผมเอื้ออำนวยพอดิบพอดี
...
เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่บางครั้งเราหาทางออกของชีวิตไม่เจอ...แม้ว่าจริงๆ แล้วทางออกที่ว่าก็อยู่ตรงหน้านั่นเอง
มันเหมือนกับมีปัญหามาบังตา ทำให้มองอะไรไม่เห็น คิดอะไรไม่ออก...สุดท้ายก็เลยหมดแรงจะแก้ปัญหาไปอย่างน่าเสียดาย
มานั่งทบทวนดูแล้ว...ส่วนมากคนที่ fail กับเรื่องงาน ยังไงก็ยังมีแรงจะสู้ต่อ ถ้าเค้ายังได้รับแรงใจจากทีมงานและครอบครัว
แต่คนที่ fail เรื่องครอบครัวก่อน...โดยมากก็จะ fail เรื่องงานตามมา...
ผมวิเคราะห์เองว่า คงเพราะไม่เหลือเหตุผลที่จะสู้ต่อ...เพราะต่อให้สู้สำเร็จ...จะหันไปดีใจกับใครดี?
เรียกว่า "ไม่เหลือเหตุผลที่จะสู้ต่อ" ก็น่าจะไม่เกินจริงไปนัก
...
แน่นอนว่า เป็นธรรมดาที่ "ทัพหน้า" ก็อาจจะมีปัญหากับ "ทัพหลัง" บ้าง...เพื่อนๆ จึงต้องทำหน้าที่เป็น "ทัพหนุน" เพื่อประคองให้ "ทัพหน้า" พอจะตั้งตัวได้ และรอให้ "ทัพหลัง" ตามมาช่วยได้ทัน
แม้ "ทัพหลัง" จะมีขนาดเล็กเพียงใด...ก็ถือเป็นกองกำลังสำคัญที่ "ทัพหน้า" ไม่อาจจะขาดได้...
เพราะ "ทัพหน้า" ไม่ได้มองหา "กำลังเสริม" หากแต่มองหา "กำลังใจ" ต่างหาก
ทั้งเพื่อนผม, ตัวผมเอง และรวมไปถึงใครก็ตามที่ทำหน้าที่ "ทัพหน้า"...จึงอุ่นใจทุกครั้ง หากว่า "ทัพหลัง" ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีอยู่
...
อย่างไรก็ดี ก็มีบางกรณีที่ กำลังใจจาก "ทัพหลัง" เพียงอย่างเดียว ก็อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ "ทัพหน้า" ชนะศึกได้
ตรงนี้จึงเป็นหน้าที่ของ "ทัพหนุน" ที่จะต้องมาช่วยเสริมกำลังรบให้กับ "ทัพหน้า" ผสานกับกำลังใจที่ได้จาก "ทัพหลัง"
เมื่อ "ทัพหน้า" ถึงพร้อมทั้งกำลังรบและกำลังใจ...ต่อให้เจอศึกที่หนักหนาหรือใหญ่หลวงสักเพียงใด ผมก็มั่นใจว่า "ทัพหน้า" จะรบอย่างเต็มกำลัง
...ไม่ว่าใครจะกำลังทำหน้าที่ "ทัพหน้า", "ทัพหลัง" หรือ "ทัพหนุน" อยู่ก็ตาม ก็จงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ...
ผมมาเยือนพม่าหนนี้ด้วยความจำเป็นที่จะต้องบินมาช่วยเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังวางแผนทำงานบางอย่าง
ว่ากันตามจริง แม้ว่างานของผมจะยุ่งวุ่นวายพอดู แต่ก็ไม่อาจดูดายให้เพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลือ ต้องต่อสู้เพียงลำพังได้
ผมเข้าใจความรู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำได้ดี...เพราะผ่านประสบการณ์เสมือนกำลังจะจมน้ำก็หลายครั้ง และแต่ละครั้งก็มีทั้งเพื่อนๆ และพี่ๆ หลายท่าน ยื่นมือมาช่วยไว้ได้ทัน
ดังนั้น ผมจึงไม่ลังเลที่จะช่วยเพื่อนคนไหนก็ตาม...หากว่าจังหวะและโอกาส พร้อมๆ กับความสามารถของผมเอื้ออำนวยพอดิบพอดี
...
เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่บางครั้งเราหาทางออกของชีวิตไม่เจอ...แม้ว่าจริงๆ แล้วทางออกที่ว่าก็อยู่ตรงหน้านั่นเอง
มันเหมือนกับมีปัญหามาบังตา ทำให้มองอะไรไม่เห็น คิดอะไรไม่ออก...สุดท้ายก็เลยหมดแรงจะแก้ปัญหาไปอย่างน่าเสียดาย
มานั่งทบทวนดูแล้ว...ส่วนมากคนที่ fail กับเรื่องงาน ยังไงก็ยังมีแรงจะสู้ต่อ ถ้าเค้ายังได้รับแรงใจจากทีมงานและครอบครัว
แต่คนที่ fail เรื่องครอบครัวก่อน...โดยมากก็จะ fail เรื่องงานตามมา...
ผมวิเคราะห์เองว่า คงเพราะไม่เหลือเหตุผลที่จะสู้ต่อ...เพราะต่อให้สู้สำเร็จ...จะหันไปดีใจกับใครดี?
เรียกว่า "ไม่เหลือเหตุผลที่จะสู้ต่อ" ก็น่าจะไม่เกินจริงไปนัก
...
แน่นอนว่า เป็นธรรมดาที่ "ทัพหน้า" ก็อาจจะมีปัญหากับ "ทัพหลัง" บ้าง...เพื่อนๆ จึงต้องทำหน้าที่เป็น "ทัพหนุน" เพื่อประคองให้ "ทัพหน้า" พอจะตั้งตัวได้ และรอให้ "ทัพหลัง" ตามมาช่วยได้ทัน
แม้ "ทัพหลัง" จะมีขนาดเล็กเพียงใด...ก็ถือเป็นกองกำลังสำคัญที่ "ทัพหน้า" ไม่อาจจะขาดได้...
เพราะ "ทัพหน้า" ไม่ได้มองหา "กำลังเสริม" หากแต่มองหา "กำลังใจ" ต่างหาก
ทั้งเพื่อนผม, ตัวผมเอง และรวมไปถึงใครก็ตามที่ทำหน้าที่ "ทัพหน้า"...จึงอุ่นใจทุกครั้ง หากว่า "ทัพหลัง" ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีอยู่
...
อย่างไรก็ดี ก็มีบางกรณีที่ กำลังใจจาก "ทัพหลัง" เพียงอย่างเดียว ก็อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ "ทัพหน้า" ชนะศึกได้
ตรงนี้จึงเป็นหน้าที่ของ "ทัพหนุน" ที่จะต้องมาช่วยเสริมกำลังรบให้กับ "ทัพหน้า" ผสานกับกำลังใจที่ได้จาก "ทัพหลัง"
เมื่อ "ทัพหน้า" ถึงพร้อมทั้งกำลังรบและกำลังใจ...ต่อให้เจอศึกที่หนักหนาหรือใหญ่หลวงสักเพียงใด ผมก็มั่นใจว่า "ทัพหน้า" จะรบอย่างเต็มกำลัง
...ไม่ว่าใครจะกำลังทำหน้าที่ "ทัพหน้า", "ทัพหลัง" หรือ "ทัพหนุน" อยู่ก็ตาม ก็จงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ...
Comments
Post a Comment