Skip to main content

Post#4-150: Be ambitious!

Post#4-150:
ผมมักจะชวนคนรอบข้างคุยเรื่อง Passion (ที่ผมมักจะนิยามมันว่า แรงบันดาลใจ มากกว่าจะแปลตรงๆ ว่า ความหลงใหล) อยู่บ่อยๆ อย่างมิรู้เบื่อ

คงเพราะผมชอบที่จะได้ยินเรื่องราวที่ผู้คนเล่าถึงมันด้วยหัวใจและสายตาที่เป็นประกาย...และมักจะตื่นเต้นไปด้วยทุกที เวลาที่พวกเค้าเล่าถึงเส้นทางที่จะทำให้ไปให้ถึงฝั่งฝันนั้นๆ

รวมไปถึงลูกน้องและทีมงานของผม...ที่ผมมักจะชอบกระตุ้นให้ใครต่อใครหา Passion ของตัวเองให้เจอให้จงได้

...

ผมเชื่อว่า หากไม่มี Passion แล้วไซร้...ก็ยากเหลือเกินที่เราจะทำอะไรต่อมิอะไรได้สำเร็จ

ที่พิเศษก็คือ ความสำเร็จที่มาจาก Passion นั้น นับเป็นความสำเร็จที่หอมหวานเป็นที่สุด

...เพราะมันแลกมาด้วยหัวใจของเรา ที่พร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่าง เพื่อให้ได้มันมา นั่นเอง

...

กระนั้น ก็ใช่ว่า ใครก็ตามที่มี Passion จะสามารถพาตัวเองไปจนสำเร็จได้ทุกคนไป...เพราะ Passion ยังถือเป็นแค่ "อารมณ์" และนั่นแปลว่า มันยังมีความผันผวนได้ง่าย

ดังนั้น ใครที่มี Passion อย่างแรงกล้า และต้องการประสบความสำเร็จให้ได้...จึงต้องยกระดับอารมณ์นั้น ให้กลายเป็น "กรอบความคิด" (หรือที่ฝรั่งเรียกว่า "Mindset" น่าจะเข้าใจง่ายกว่าครับ)

เมื่อยกระดับของ Passion จากอารมณ์ให้เป็น Mindset...เจ้า Passion ของเรา ก็พร้อมแล้วที่จะ evolve ให้เป็น "Ambition"

ว่าตามภาษาการ์ตูน ก็ต้องว่า ยกระดับจาก "ชาวไซย่า" ไปเป็น "ซูเปอร์ไซย่า" นั่นล่ะครับ ^^

...

เมื่อ "แรงบันดาลใจ" (หรือความหลงใหล) กลายร่างไปเป็น "ความทะเยอทะยาน"...กรอบความคิดของเราจะเปลี่ยนแปลง

จากอารมณ์ที่ไร้ระเบียบ ผันผวน จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นความมุ่งมั่น และมีแผนที่เป็นขั้นเป็นตอน...เพื่อคำตอบเดียวเท่านั้น คือ "ชนะ" ศึก...หรือไม่หยุดจนกว่าจะฝันเป็นจริงนั่นเอง

เมื่อเรามุ่งมั่นที่จะทำฝันให้เป็นจริง โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องฝันฟ่าอะไรก็ตาม...เราจึงจะสามารถผลักตัวเองให้เหนือกว่าคนอื่นๆ ทั่วไปได้

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้าปราศจาก Ambition นี้แล้ว แม้ว่าเราจะ passionate กับอะไรก็ตาม...เราก็อาจจะเดินแบบเรื่อยเปื่อย ถึงก็ดี ไม่ถึงก็ไม่เป็นไร...ว่าอย่างนั้น

สรุปได้ว่า คนที่ทำอะไรด้วยความทะเยอทะยานเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าใกล้กับคำว่า "ความสำเร็จ" ได้มากกว่าคนทั่วไป

...Be ambitious! ครับ...

#ไม่หยุดไม่หน่ายไม่ท้อจนกว่าจะถึงเส้นชัย #ขุนเขาจะสูงใหญ่เพียงใดก็อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคนทะเยอทะยาน #ยิ่งเป้าหมายใหญ่ยิ่งท้าทายคุณค่าคน #BePassionateToBeAmbitious

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...