Skip to main content

Post#4-175: Comfort Zone ไม่ใช่สถานที่

Post#4-175:
เช้านี้ ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้สมัครท่านหนึ่ง...และหนึ่งในคำถามที่ผมถามเธอก็คือ "ทำไมเธอถึงอยากเปลี่ยนงาน"

เธอตอบผมว่า "รู้สึกว่าไปทำงานแล้ว ตัวเองฉลาดน้อยลงไปทุกวันๆ"

ดังนั้น ก่อนที่จะไม่เหลือความฉลาดอยู่เลย...เธอจึงตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ

...

บ่ายวันนี้ ผมได้รับข้อความผ่าน Line จากอดีตลูกน้องท่านหนึ่ง

เรื่องของเรื่องก็คือ เธออยากจะเปลี่ยนงาน...เพราะเธอรู้สึกว่า กำลังติดอยู่ใน Comfort Zone

เธอเกรงว่า ปล่อยให้เนิ่นนานไป เธอจะไม่กล้าออกจาก Comfort Zone นั้น ไปไหนอีกเลย

...

ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ผมก็มีโอกาสได้คุยกับ Investor กลุ่มหนึ่ง

แน่นอนว่า ประเด็นที่สนทนากัน ก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน Project ใหม่ๆ ที่พวกเค้าไม่เคยลงทุนมาก่อน

เหตุผลของ Investor ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ นั้น อยู่ตรงที่ พวกเค้าต้องการเปิดประตูไปสู่โอกาสใหม่ๆ...ไม่ใช่จมจ่อมอยู่ที่เดิม

...

นึกดูแล้วก็แปลกดีครับ...ที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เรื่องนี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันโดยบังเอิญ และทุกเรื่องต่างก็เกี่ยวโยงกับเรื่อง Comfort Zone ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

แปลว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อย รู้ว่า Comfort Zone เป็นเรื่องอันตรายเหลือเกิน...และหากรู้ตัวทันท่วงที ก็มีโอกาสที่เราจะหลุดกับดักอันน่ากลัวนี้ ไปได้

ผมคงไม่ต้องบอกซ้ำอีก ว่าทำไม Comfort Zone เป็นหายนะที่เราไม่ควรเฉียดเข้าใกล้...และเราต้องหมั่นทบทวนชีวิตให้ดีครับ ว่าเผลอตัวก้าวเข้าไปอยู่ใน Comfort Zone เข้าให้รึเปล่า?

...

การทำงานอยู่ที่ไหนนานๆ ก็ไม่ได้เป็นความผิด...และไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า เราตกอยู่ใน Comfort Zone

ตราบเท่าที่เรามีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ผลลัพธ์การทำงานดีขึ้น...ก็แปลว่า เรามิได้ตกอยู่ในอิทธิพลของ Comfort Zone

อย่าไปมัวคิดจะเปลี่ยนงาน ย้ายงาน...แต่ไม่คิดจะเปลี่ยนวิธีการทำงานของตน ยังทำตัวเหมือนเดิม...นั่นต่างหาก Comfort Zone ของจริง

...นิยามของ Comfort Zone ที่แท้จริง จึงไม่ใช่เรื่องของสถานที่ หากแต่เป็น "ความคุ้นชิน" ที่ตัวเราสร้างขึ้นในตัวเราเองต่างหาก...

#เปลี่ยนที่ไม่เปลี่ยนนิสัยยังไงก็ไม่เปลี่ยน #อยู่ที่เดิมได้แต่ไม่รู้จักปรับปรุงไม่ได้ #ดีอยู่แล้วไม่ดี

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...