Post#4-159:
ผมมาร่วมงานเผาศพคุณแม่ของผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่ง ที่ผมคุ้นเคยกับท่านในระดับหนึ่ง
งานอวมงคลแบบนี้ ถือเป็นงานแสดงน้ำใจที่ผมไม่ค่อยจะยอมพลาด...หากว่าไม่ติดภารกิจใดๆ อยู่ (Post#3-124)
ส่วนงานวันเกิดหรืองานฉลอง โดยเฉพาะงานแต่งงาน ถ้าไม่จำเป็นถึงขีดสุด เลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยง...ไม่ก็ไปปรากฏกายแป๊บเดียว แล้วก็ชิ่ง
ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวก Introvert หรอกนะครับ...แต่ผมชอบที่จะเป็น "เพื่อนทุกข์" มากกว่าเป็น "เพื่อนสุข"
...
ที่ว่ากันว่า "เพื่อนแท้เห็นใจกันในยามยาก" ก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบเจอะเจอความยากลำบาก
ลำพังความทุกข์ยากของตัวเองก็มากมายอยู่แล้ว...ดังนั้น จึงไม่อยากเกี่ยวข้องกับความทุกข์ของคนอื่น เป็นการเพิ่มเติม
ในยามที่เราเผชิญความทุกข์ยาก...เราจึงมักหันหน้าไปหาใครก็ตาม ได้น้อยกว่าน้อย
...
ใครที่เคยเผชิญกับความโศกเศร้าหรือความทุกข์ยาก จึงซาบซึ้งดีแก่ใจ...
ว่าการที่มีใครเห็นใจเรา ปลอบใจเราในยามทุกข์เศร้า หรือยื่นมือช่วยเราในยามลำบากนั้น...มันเป็นความรู้สึกที่ "ยิ่งใหญ่" เพียงใด
แต่กระนั้น ใครที่เคยเป็นเพียงแต่ "ผู้ได้รับการปลอบใจ" หรือ "ผู้ได้รับความช่วยเหลือ" อาจไม่เคยรู้
ว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่กว่า ก็คือความรู้สึกของคนเป็น "ผู้ปลอบใจ" หรือ "ผู้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ"
...
พุทธองค์เองทรงเป็นแบบอย่างของ "ผู้ช่วยเหลือ" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลก...เฉกเช่นเดียวกับศาสดาของศาสนาต่างๆ
แม้เนื้อหาของแต่ละศาสนาจะแตกต่าง...แต่ปลายทางของแต่ละศาสนา ล้วนมีจุดหมายให้ "สาวก" พ้นจากความทุกข์
...ดังนั้น การช่วยให้ผู้อื่นคลายเศร้า หรือทุเลาจากทุกข์...จึ่งนับเป็น การเดินตามรอยองค์ศาสดา อย่างแท้จริงครับ...
#ทุกข์ได้แต่ต้องวางเป็น #เพื่อนแท้เห็นใจกันยามยาก #ช่วยผู้อื่นจึงนับเป็นการช่วยตัวเรา #ตามรอยธรรม
ผมมาร่วมงานเผาศพคุณแม่ของผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่ง ที่ผมคุ้นเคยกับท่านในระดับหนึ่ง
งานอวมงคลแบบนี้ ถือเป็นงานแสดงน้ำใจที่ผมไม่ค่อยจะยอมพลาด...หากว่าไม่ติดภารกิจใดๆ อยู่ (Post#3-124)
ส่วนงานวันเกิดหรืองานฉลอง โดยเฉพาะงานแต่งงาน ถ้าไม่จำเป็นถึงขีดสุด เลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยง...ไม่ก็ไปปรากฏกายแป๊บเดียว แล้วก็ชิ่ง
ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวก Introvert หรอกนะครับ...แต่ผมชอบที่จะเป็น "เพื่อนทุกข์" มากกว่าเป็น "เพื่อนสุข"
...
ที่ว่ากันว่า "เพื่อนแท้เห็นใจกันในยามยาก" ก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบเจอะเจอความยากลำบาก
ลำพังความทุกข์ยากของตัวเองก็มากมายอยู่แล้ว...ดังนั้น จึงไม่อยากเกี่ยวข้องกับความทุกข์ของคนอื่น เป็นการเพิ่มเติม
ในยามที่เราเผชิญความทุกข์ยาก...เราจึงมักหันหน้าไปหาใครก็ตาม ได้น้อยกว่าน้อย
...
ใครที่เคยเผชิญกับความโศกเศร้าหรือความทุกข์ยาก จึงซาบซึ้งดีแก่ใจ...
ว่าการที่มีใครเห็นใจเรา ปลอบใจเราในยามทุกข์เศร้า หรือยื่นมือช่วยเราในยามลำบากนั้น...มันเป็นความรู้สึกที่ "ยิ่งใหญ่" เพียงใด
แต่กระนั้น ใครที่เคยเป็นเพียงแต่ "ผู้ได้รับการปลอบใจ" หรือ "ผู้ได้รับความช่วยเหลือ" อาจไม่เคยรู้
ว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่กว่า ก็คือความรู้สึกของคนเป็น "ผู้ปลอบใจ" หรือ "ผู้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ"
...
พุทธองค์เองทรงเป็นแบบอย่างของ "ผู้ช่วยเหลือ" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลก...เฉกเช่นเดียวกับศาสดาของศาสนาต่างๆ
แม้เนื้อหาของแต่ละศาสนาจะแตกต่าง...แต่ปลายทางของแต่ละศาสนา ล้วนมีจุดหมายให้ "สาวก" พ้นจากความทุกข์
...ดังนั้น การช่วยให้ผู้อื่นคลายเศร้า หรือทุเลาจากทุกข์...จึ่งนับเป็น การเดินตามรอยองค์ศาสดา อย่างแท้จริงครับ...
#ทุกข์ได้แต่ต้องวางเป็น #เพื่อนแท้เห็นใจกันยามยาก #ช่วยผู้อื่นจึงนับเป็นการช่วยตัวเรา #ตามรอยธรรม
Comments
Post a Comment