Post#4-153:
ผมเริ่มต้นทำงานครั้งแรกๆ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในตำแหน่ง Project Co-ordinator
ฟังดูเท่มั๊ยครับ...แต่จริงๆ มันก็คืองานพนักงานทั่วไป ที่ทำหน้าที่ตั้งแต่ถ่ายเอกสารไปจนถึงช่วยหัวหน้าหาข้อมูล
จากนั้น อีก 6 เดือน ถัดมา...ผมก็มีอันโชคดีที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Personal Assistant ของเจ้าของบริษัท
อันว่าตำแหน่ง Personal Assistant นั้น...ก็แปลเป็นไทยได้ว่าเป็น "เลขาฯ ส่วนตัว" นั่นเอง
...
หลายๆ คนอาจมองภาพว่า การเป็นเลขาฯ นั้นเป็นงานง่ายๆ...ก็แค่ทำตามคำสั่งนาย ก็เพียงพอแล้ว
แต่ที่จริง คนที่จะเป็นเลขาฯ ที่ดีได้นั้น...ต้องมีความสามารถใน "ระดับสูง" ไม่น้อยเลย
...ก็เพราะต้องสามารถตอบสนองต่อคำสั่งของนายได้อย่างถูกต้อง, ครบถ้วน และตรงเวลา
...
นอกจากนั้น ก็ยังจะต้องสามารถประสานงานกับฝ่ายบริหารและฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นโยบายหรือคำสั่งของนายนั้น จะถูกแปลงเป็นแผนงานได้ถูกต้องตามเจตนา
ที่สำคัญอย่างยิ่งอีกหนึ่งเรื่องของการเป็นเลขาฯ ก็คือ...จำเป็นจะต้อง "เก็บความลับ" เป็น...ไม่ใช่รู้อะไรมา ก็กลายเป็นพวก "ผีเจาะปาก" เล่าให้คนอื่นฟังไปเสียทุกเรื่อง
คนที่จะเป็นเลขาฯ ได้ดี จึงจำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีไหวพริบปฏิภาณ, ฟังเยอะๆ, พูดน้อยๆ และเก็บความลับได้เป็นเลิศ
ต้องแบ่งเบานายได้ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน...ไม่ใช่มัวแต่นินทานาย หรือใช้อำนาจของนายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
...
เมื่อการเป็นเลขาฯ ไม่ใช่งานง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้...จึงหมายความว่า ใครได้ทำงานเป็นเลขาฯ ของผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของกิจการนั้น ถือเป็นโชคดี
เพราะนั่นคือหนทางเรียนงานแบบหลักสูตรเข้มข้น...ที่ยากจะหาโอกาสได้ร่ำเรียนได้ง่ายๆ
...เมื่อเลขาฯ ได้ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับผู้บริหารหรือเจ้าของแล้ว...อย่าปล่อยให้โอกาสอันดีในการฝึกฝนต้วเองสูญเปล่าไปเสียล่ะครับ...
#เป็นเลขาฯไม่ยากแต่ยากตรงที่จะเป็นเลขาฯที่ดีได้ยังไง #เป็นเลขาฯหรือเป็นเลหลัง #นินทานายแต่พองาม #เก็บความลับให้อยู่ #นั่นไงทำไมถึงเรียกSECRETary
ผมเริ่มต้นทำงานครั้งแรกๆ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในตำแหน่ง Project Co-ordinator
ฟังดูเท่มั๊ยครับ...แต่จริงๆ มันก็คืองานพนักงานทั่วไป ที่ทำหน้าที่ตั้งแต่ถ่ายเอกสารไปจนถึงช่วยหัวหน้าหาข้อมูล
จากนั้น อีก 6 เดือน ถัดมา...ผมก็มีอันโชคดีที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Personal Assistant ของเจ้าของบริษัท
อันว่าตำแหน่ง Personal Assistant นั้น...ก็แปลเป็นไทยได้ว่าเป็น "เลขาฯ ส่วนตัว" นั่นเอง
...
หลายๆ คนอาจมองภาพว่า การเป็นเลขาฯ นั้นเป็นงานง่ายๆ...ก็แค่ทำตามคำสั่งนาย ก็เพียงพอแล้ว
แต่ที่จริง คนที่จะเป็นเลขาฯ ที่ดีได้นั้น...ต้องมีความสามารถใน "ระดับสูง" ไม่น้อยเลย
...ก็เพราะต้องสามารถตอบสนองต่อคำสั่งของนายได้อย่างถูกต้อง, ครบถ้วน และตรงเวลา
...
นอกจากนั้น ก็ยังจะต้องสามารถประสานงานกับฝ่ายบริหารและฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นโยบายหรือคำสั่งของนายนั้น จะถูกแปลงเป็นแผนงานได้ถูกต้องตามเจตนา
ที่สำคัญอย่างยิ่งอีกหนึ่งเรื่องของการเป็นเลขาฯ ก็คือ...จำเป็นจะต้อง "เก็บความลับ" เป็น...ไม่ใช่รู้อะไรมา ก็กลายเป็นพวก "ผีเจาะปาก" เล่าให้คนอื่นฟังไปเสียทุกเรื่อง
คนที่จะเป็นเลขาฯ ได้ดี จึงจำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีไหวพริบปฏิภาณ, ฟังเยอะๆ, พูดน้อยๆ และเก็บความลับได้เป็นเลิศ
ต้องแบ่งเบานายได้ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน...ไม่ใช่มัวแต่นินทานาย หรือใช้อำนาจของนายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
...
เมื่อการเป็นเลขาฯ ไม่ใช่งานง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้...จึงหมายความว่า ใครได้ทำงานเป็นเลขาฯ ของผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของกิจการนั้น ถือเป็นโชคดี
เพราะนั่นคือหนทางเรียนงานแบบหลักสูตรเข้มข้น...ที่ยากจะหาโอกาสได้ร่ำเรียนได้ง่ายๆ
...เมื่อเลขาฯ ได้ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับผู้บริหารหรือเจ้าของแล้ว...อย่าปล่อยให้โอกาสอันดีในการฝึกฝนต้วเองสูญเปล่าไปเสียล่ะครับ...
#เป็นเลขาฯไม่ยากแต่ยากตรงที่จะเป็นเลขาฯที่ดีได้ยังไง #เป็นเลขาฯหรือเป็นเลหลัง #นินทานายแต่พองาม #เก็บความลับให้อยู่ #นั่นไงทำไมถึงเรียกSECRETary
Comments
Post a Comment