Post#4-172:
ปกติผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับงานแต่งงานสักเท่าไหร่...
แม้ว่าถ้าเป็นคนรู้จักหรือพรรคพวกเชิญ ผมจะไม่ค่อยปฏิเสธ...แต่มักจะอยู่ไม่ค่อยจบงาน
...ว่าง่ายๆ ก็คือมาให้คู่บ่าว-สาว เห็นหน้า แล้วผมก็จะหาทาง "แว่บ" นั่นล่ะครับ
...
ไม่ใช่ว่าทนอิจฉาคู่บ่าว-สาว ไม่ไหว ก็เลยต้องหนี หรอกนะครับ...เพียงแต่ไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ๆ มีคนเยอะๆ เท่านั้นเอง
มาค่ำคืนนี้...ลูกน้องของผมท่านหนึ่งได้เป็นฝั่งเป็นฝา และมาเชิญผมล่วงหน้า พร้อมกับจับผมนั่งโต๊ะ VVIP เสียด้วย...
ผมก็เลยหมดมุกที่จะหนีไปไหนได้ ต้องนั่งอยู่ด้วยจนจบงาน
แอบรู้สึกเสียดุลการค้านิดหน่อย ตรงที่เธอแต่งงานกับหนุ่มหล่อชาวฝรั่งเศส ^^
...
จะว่าไปแล้ว งานแต่งงานในปัจจุบันมักจะหนีความจำเจที่เป็น Pattern ไม่ค่อยได้...ไปงานไหน ก็จัดเหมือนๆ กันเป็นสูตรสำเร็จ
เว้นก็แต่งานนี้ ที่ทำ Presentation ได้น่าสนใจและสนุกมากๆ...เสียดายก็แต่มุมที่ผมนั่งนั้น มองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่
และที่สำคัญ...บรรยากาศของงาน ค่อนข้างสบายๆ ไม่ค่อยมากพิธีรีตอง
...
แต่ยังไงเสีย คืนวันแต่งงานนี้ ก็จะเป็นค่ำคืนสำคัญที่คู่บ่าวสาวจดจำได้เป็นอย่างดี โดยไม่อาจลืมเลือนไปได้โดยง่าย
ยกตัวอย่าง งานแต่งงานของผม...แม้จะผ่านมากว่าทศวรรษแล้วก็ตาม...แต่ผมก็ยังจำทุกภาพบรรยากาศได้เป็นอย่างดี
และเมื่อไหร่ที่งัดเอา DVD งานแต่ง ขึ้นมาดู...ก็รู้สึกอยากจัดงานแต่งอีกที ทุกครั้งไป
...
ดังนั้น ผมจึงมั่นใจว่า ค่ำคืนนี้ก็จะเป็นค่ำคืนที่ลูกน้องของผมจะจดจำมันได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ถือเป็นวันเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นทางการให้ "โลก" ได้รับรู้
ถือเป็นการแสดงเจตน์จำนงว่า สองชีวิตกำลังจะหลอมเป็นชีวิตเดียว...ทุกข์ด้วยกัน และสุขด้วยกัน หรือเป็น "สองกายหัวใจเดียว" อย่างที่ว่า
และแม้จะต่างชาติต่างภาษา...หากแต่ "ภาษารัก" นั้น เป็นภาษาสากล ที่ใช้หัวใจสื่อสาร
...ขอให้ความรักอยู่คู่โลก และเป็นพลังที่ทำให้โลกยังคงสวยงามต่อไปครับ...
#สมรักสมรส #ยินดีกับคู่บ่าวสาว #ภาษาใดจะไพเราะเท่าภาษารักเป็นไม่มี #มองตาก็รู้เพราะรักอยู่ในนั้น #หวานเกินไปมั๊ย
ปกติผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับงานแต่งงานสักเท่าไหร่...
แม้ว่าถ้าเป็นคนรู้จักหรือพรรคพวกเชิญ ผมจะไม่ค่อยปฏิเสธ...แต่มักจะอยู่ไม่ค่อยจบงาน
...ว่าง่ายๆ ก็คือมาให้คู่บ่าว-สาว เห็นหน้า แล้วผมก็จะหาทาง "แว่บ" นั่นล่ะครับ
...
ไม่ใช่ว่าทนอิจฉาคู่บ่าว-สาว ไม่ไหว ก็เลยต้องหนี หรอกนะครับ...เพียงแต่ไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ๆ มีคนเยอะๆ เท่านั้นเอง
มาค่ำคืนนี้...ลูกน้องของผมท่านหนึ่งได้เป็นฝั่งเป็นฝา และมาเชิญผมล่วงหน้า พร้อมกับจับผมนั่งโต๊ะ VVIP เสียด้วย...
ผมก็เลยหมดมุกที่จะหนีไปไหนได้ ต้องนั่งอยู่ด้วยจนจบงาน
แอบรู้สึกเสียดุลการค้านิดหน่อย ตรงที่เธอแต่งงานกับหนุ่มหล่อชาวฝรั่งเศส ^^
...
จะว่าไปแล้ว งานแต่งงานในปัจจุบันมักจะหนีความจำเจที่เป็น Pattern ไม่ค่อยได้...ไปงานไหน ก็จัดเหมือนๆ กันเป็นสูตรสำเร็จ
เว้นก็แต่งานนี้ ที่ทำ Presentation ได้น่าสนใจและสนุกมากๆ...เสียดายก็แต่มุมที่ผมนั่งนั้น มองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่
และที่สำคัญ...บรรยากาศของงาน ค่อนข้างสบายๆ ไม่ค่อยมากพิธีรีตอง
...
แต่ยังไงเสีย คืนวันแต่งงานนี้ ก็จะเป็นค่ำคืนสำคัญที่คู่บ่าวสาวจดจำได้เป็นอย่างดี โดยไม่อาจลืมเลือนไปได้โดยง่าย
ยกตัวอย่าง งานแต่งงานของผม...แม้จะผ่านมากว่าทศวรรษแล้วก็ตาม...แต่ผมก็ยังจำทุกภาพบรรยากาศได้เป็นอย่างดี
และเมื่อไหร่ที่งัดเอา DVD งานแต่ง ขึ้นมาดู...ก็รู้สึกอยากจัดงานแต่งอีกที ทุกครั้งไป
...
ดังนั้น ผมจึงมั่นใจว่า ค่ำคืนนี้ก็จะเป็นค่ำคืนที่ลูกน้องของผมจะจดจำมันได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ถือเป็นวันเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นทางการให้ "โลก" ได้รับรู้
ถือเป็นการแสดงเจตน์จำนงว่า สองชีวิตกำลังจะหลอมเป็นชีวิตเดียว...ทุกข์ด้วยกัน และสุขด้วยกัน หรือเป็น "สองกายหัวใจเดียว" อย่างที่ว่า
และแม้จะต่างชาติต่างภาษา...หากแต่ "ภาษารัก" นั้น เป็นภาษาสากล ที่ใช้หัวใจสื่อสาร
...ขอให้ความรักอยู่คู่โลก และเป็นพลังที่ทำให้โลกยังคงสวยงามต่อไปครับ...
#สมรักสมรส #ยินดีกับคู่บ่าวสาว #ภาษาใดจะไพเราะเท่าภาษารักเป็นไม่มี #มองตาก็รู้เพราะรักอยู่ในนั้น #หวานเกินไปมั๊ย
Comments
Post a Comment