Skip to main content

Post#5-273: พร้อมอยู่

Post#5-273:
ความน่าเบื่อหน่ายอย่างหนึ่ง ที่ชาวออฟฟิศทั้งหลายต่างต้องพบเจอ...ก็คือเรื่องแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย นั่นเองครับ

อย่าพึ่งถอดใจครับ...เพราะนี่เป็นธรรมชาติของสัตว์สังคมทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงมนุษย์อย่างเราๆ ด้วยเช่นกัน

เมื่อเกิดการรวมกลุ่ม ก็จะเกิดความหวงแหนในเขตแดน และความรักในพวกพ้องขึ้น...เป็นธรรมดา

...

บางคนมีเขตแดนใหญ่มาก...ก็รักทุกคนในออฟฟิศ จึงไม่ค่อยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และให้ความร่วมมือกับทุกคนเป็นอย่างดี

บางคนก็สร้างเขตแดนขึ้น แม้จะอยู่ในแผนกเดียวกัน...และพร้อมจะตั้งแง่ทะเลาะกับทุกคนที่เหยียบเข้ามา

ถามตัวเองดีๆ ครับ...ว่าเราเป็นแบบไหน?

...

คำถามก็คือ แล้วเราจะอยู่ร่วมกับคนที่ชอบสร้างเขตแดนยังไงดีหนอ?

ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ถ้าไม่จำเป็นต้องไป deal งานด้วย...ก็อยู่ห่างๆ ไว้ครับ

แต่ถ้าจำเป็น...ก็ต้องสร้างเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้เราเข้าไปในเขตแดนของพวกเค้าได้ เช่น ชอบดาราคนเดียวกัน, ชอบงานอดิเรกเหมือนๆ กัน, ฯลฯ

ย้ำไว้อย่างหนึ่งว่า...ถ้าเงื่อนไขในการเข้าไปในเขตแดนของพวกเค้า ผิดต่อกฎหมาย, ศีลธรรม และจรรยาอันดี...ก็อยู่ห่างๆ ไว้ดีกว่าครับ

...

แต่ขอฝากไว้ให้คิดต่อครับ

ว่าถ้าเราเป็นผู้บริหาร...ยิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไหร่...ก็ยิ่งต้องขยายเขตแดนของความร่วมมือให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น

ต้องมองชัยชนะขององค์กร...ให้มากกว่าชัยชนะส่วนตนหรือทีม

ผู้บริหารที่ใจแคบ ชอบแบ่งพรรคแบ่งพวกน่ะ...ไปได้ไม่ไกลสักคนเลยครับ

ส่วนพวกที่ชอบเสี้ยมให้ผู้บริหารทะเลาะกันน่ะ...ท้ายที่สุด ก็อย่าได้นึกว่า ตัวเองจะได้ดี

เพราะคนที่ถูกเสี้ยมน่ะ...สุดท้ายก็เป็นได้แค่ Dead Wood ขององค์กรฯ เท่านั้น

แล้วลงท้ายพวกที่ชอบเสี้ยม...ก็จะไม่มีกิ่งไม้ที่แข็งแรงให้เกาะ หรือส่งเสริม

...

ส่วนคนที่ต้องเผชิญกับความน่าเบื่อหน่ายที่ว่า...ผมขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อ

คิดดูให้ดี...ว่าองค์กรฯ ของเรามันเลวร้าย...หรือจริงๆ แล้ว ก็แค่ผู้บริหารบางคนเท่านั้น ที่เลวร้าย

ถ้าต้องลาจากองค์กรฯ ไป เพราะเบื่อคนแย่ๆ บางคน...จะไม่เป็นการใจร้ายกับคนดีๆ ในองค์กรฯ มากเกินไปหรือ?

...แล้วก็หมายความว่า เราแคร์คนที่ไม่ควรแคร์มากเกินไป...หรือมิใช่?...

#NoteToSelf:

  • คิดดูว่า ถ้าบ้านเราสกปรก...เราจะหาทางกำจัดสิ่งสกปรกนั้น หรือมองหาบ้านใหม่ที่สะอาด? ถ้าเลือกมองหาบ้านใหม่...แน่ใจนะ ว่าจะไม่เจอหลังที่สกปรกกว่าเดิม?
  • ที่องค์กรฯ แย่ ไม่ใช่เพราะมีคนแย่ๆ อยู่เยอะ...แต่มักเป็นเพราะคนดีๆ ถอดใจ ต่างหาก
  • อย่ามัวแต่มองหาองค์กรที่ดีพร้อม...แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรของเรานั้นพร้อมอยู่

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...