Post#5-288:
ค่ำนี้ ผมได้รับเชิญให้มาร่วมงานวันชาติของราชรัฐลักเซมเบิร์ก...ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูต เป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาให้เกียรติเชิญมา
ที่น่าเหลือเชื่อคือ ท่านจำผมได้...แม้พึ่งจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนที่ผมไปเยี่ยมคารวะที่สถานฑูตฯ และท่านจำได้ขนาดที่ว่า คุยอะไรกันไว้ด้วย!
ครั้งที่ไปเยี่ยมคารวะ...ท่านก็ได้กรุณาเดินไปส่งผมถึงโถงลิฟต์ชั้นล่างเลยทีเดียว
จริยวัตรของท่านเอกอัครราชทูตทุกๆ ท่าน ที่ผมได้มีโอกาสเข้าพบและได้ทำความรู้จัก...ล้วนแต่น่าชื่นชมเช่นนี้
...
เราคนไทยจะคุ้นๆ กับกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ (ซึ่งก็คือ เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และลักซ์เซมเบิร์ก)...มากกว่าชื่ออื่น
ลักเซมเบิร์ก มีประชากรน้อยกว่า 6 แสนคน และมีขนาดพื้นที่เพียงแค่ 5% ของประเทศไทย เท่านั้น
ซึ่งประเทศเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่นี้...มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่น่าจะมีคนไทยรู้จักมากนัก
ยิ่งใหญ่ยังไง?...ก็ยิ่งใหญ่ขนาดเป็นหนึ่งใน “ประเทศผู้ร่วมก่อตั้งประชาคมยุโรป” เลยก็แล้วกัน
...
เมื่อค้นคว้าเกี่ยวกับลักซ์เซมเบิร์กมากขึ้น...ผมยิ่งมั่นใจว่า “ขนาดหรือปริมาณ” นั้น ไม่ได้สำคัญไปกว่า “คุณภาพ” เลย
ดังนั้น เราในฐานะบุคคล ก็น่าจะเรียนรู้จากราชรัฐลักซ์เซมเบิร์ก...
เพราะพวกเค้าไม่ได้ทดท้อกับสิ่งที่พวกเค้าไม่มี
หากแต่พวกเค้าต่อสู้ด้วยสิ่งที่มี...
จนนำพาชาติไปอยู่แถวหน้าของประชาคมยุโรป...ได้อย่างเปี่ยมศักดิ์ศรี
แปลว่า เราต้องบอกตัวเองใหม่ ว่าอย่ามัวแต่สงสารตัวเองว่าเรา “ขาด” อะไร
...แต่ต้องบอกตัวเองให้เข้มแข็ง จากสิ่งที่เรา “มี” เป็นสำคัญ...
#NoteToSelf:
- ยิ่ง “ใหญ่” ยิ่งต้องอ่อนน้อม...ยิ่ง “ขึ้นสูง” ยิ่งต้อง “ติดดิน”
- อย่ามัวแต่ก่นด่าว่าประเทศไม่ดี เพราะพวกเราทุกคนต่างหาก ที่ต้องช่วยกันทำให้ประเทศดีขึ้น...ซึ่งเริ่มง่ายๆ จากตัวเราเองก่อน
- “ขาดอะไร” ไม่สำคัญเท่า “มีอะไร”
* เผื่อใครสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักซ์เซมเบิร์ก ครับ
Comments
Post a Comment