Post#5-290:
เมื่อเช้านี้ มีอดีตเพื่อนร่วมงานผมท่านหนึ่ง...ส่งข้อความมาปรึกษาเกี่ยวกับความไม่สบายใจในที่ทำงาน ถึงขนาดคิดอยากจะลาออก
ประเด็นหลักๆ ก็อยู่ที่เธอรู้สึกว่าทีมงานที่ทำงานด้วยกัน ไม่ค่อยให้เกียรติเธอ...และลงท้ายที่เธอตั้งคำถามว่า เธอเหมาะกับ “วัฒนธรรมองค์กร” ของที่นี่มั๊ย?
อืมม...เอาจริงๆ ผมก็ไม่มีสิทธิ์หรือหน้าที่ไปบอกให้ใครทำงานต่อไปหรือลาออก
ก่อนจะบอกว่า ผมแนะนำเธอไปยังไง...ลองคิดดูก่อนครับ ว่าเหตุผลที่หนักหนาพอที่จะทำให้เราเลือกที่จะลาออก คืออะไรบ้าง?
...
แน่นอนว่า เหตุผลที่หนักหนานั้น...มีอยู่สารพัด
แต่เอาเข้าจริงๆ...เหตุผลที่บางคนคิดว่าหนักหนา อาจจะเป็นเหตุผลจิ๊บจ๊อยสำหรับอีกคน
รวมความแล้ว ผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าใจเราคิดจะไปแล้ว...อะไรก็กลายเป็น “เหตุผลที่หนักหนา” ได้ทั้งสิ้น นั่นเอง
...
ผมแนะนำเธอด้วยขั้นตอน 3 ขั้น...ที่ผมมักจะใช้แนะนำอดีตลูกน้องและคนรอบข้าง เสมอ ซึ่งก็คือ
หนึ่ง...ต้องทำใจให้เย็นๆ ก่อน อย่าตัดสินใจอะไรใหญ่ๆ ตอนที่อารมณ์เสียเกินงาม และอารมณ์ดีเกินควร
สอง...เขียนข้อดีและข้อเสียของการลาออก กับข้อดีและข้อเสียของการอดทนทำงานที่เดิมต่อไป มาเทียบกันดู...แต่ต้องใส่ปัจจัยของครอบครัวเข้าไปด้วย
สาม...ไปขอเวลาเจอกับเจ้านายตรงๆ เพื่อสอบถามประเด็นๆ ต่างๆ ที่เราค้างคาใจ...ก่อนที่จะทำการตัดสินใจสุดท้าย
สิ่งสำคัญที่ควรบอกตัวเองไว้ ก็คือ จงอย่าลาออกเพราะเบื่อคนรอบข้าง หรือเพราะเอียนกับการเมืองในที่ทำงาน
...เพราะความจริงก็คือ ไปทำงานที่ไหน ก็ต้องเจอ อยู่ดี...
#NoteToSelf:
- อย่าลืมว่าเรื่องการเมืองในที่ทำงานเริ่มต้นขึ้น เมื่อมีคนมากกว่า 1 คนขึ้นไป มาทำงานอยู่ด้วยกัน...ดังนั้น ตราบใดที่เรายังไม่เบื่อนายหรือโดนนายเบื่อ...ก็อย่าไปให้ราคากับคนอื่นๆ มากนัก
- เวลาจะลาออก อย่ามองหาแต่เหตุผลที่ทำให้เราสะใจระยะสั้น แต่กลับกลายมาเป็นทำให้เราทุกข์ใจระยะยาว
- จำวันแรกที่เรามาทำงานที่นี่ได้มั๊ย? ส่วนใหญ่แล้ว เรามาอย่างภาคภูมิใจและยินดี...เวลาจะลาออก ทำไมไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกแบบนั้น อีกครั้ง? #ลาออกให้คนคิดถึงไม่ใช่สาบส่ง
Comments
Post a Comment