Post#2-27:
ท่ามกลางความวุ่นวายแห่งวิถีแก่งแย่งของผู้คนในปัจจุบันนี้ เราคงต้องหมั่นทบทวนและควบคุมสติตัวเองบ่อยๆ
หลายคนเครียดเรื่องงาน ก็ไปพาลคนใกล้ตัว และผู้คนอีกมากที่แก้ปัญหาส่วนตัวไม่ได้ เลยพาลไปลงกับเพื่อนร่วมงาน
ยอมรับอย่างไม่ปิดบังเลยว่า...ผมเองก็เป็นแบบนี้อยู่บ้างครับ
เคยคุยให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าเราต้องหมั่นคุมสติ ซึ่งทุกคนก็คงทราบดีว่า มันเป็นเรื่องยากเอาการ ที่จะมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา
ความโกรธ อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ยามที่เราขาดสติ
แต่หลังจากสติกลับมาแล้วนั้น หากเราคิดได้ว่าเราผิด สำนึกแห่งความรู้ผิดนั้น ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน
สำนึกเป็นเรื่องของความคิด แต่การเอ่ยปากขอโทษเป็นเรื่องของการกระทำ
เราล่วงรู้ความสำนึกผิดของคนไม่ได้ แต่สัมผัสการขอโทษอย่างจริงใจได้...
...
หากเราเป็นฝ่ายถูก...เราเลือกได้ว่าจะแบกความพยาบาท หรือให้อภัย
ถ้าตอนที่มีปัญหากับอีกฝ่าย เราเป็นฝ่ายไม่ตอบโต้ ถึงตอนเค้ามาขอโทษอย่างจริงใจ การให้อภัยนั้นก็คงไม่ยาก
แต่ถ้าตอนนั้น เราก็ปล่อยศักดาคืนไปด้วย จะบอกว่าเราไม่ผิด ก็พูดยาก เพราะผิดหรือถูก อยู่ที่มองจากมุมไหน มองมุมเรา เราก็ว่าเราถูก มองมุมเค้า เค้าก็ว่าเค้าถูก
ดังนั้น ถ้าทะเลาะกัน คนที่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษอย่างจริงใจก่อน จึงเป็นฝ่ายที่มีความสุขก่อน ส่วนอีกฝ่ายจะให้อภัยหรือไม่ เราคงคาดเดาไม่ได้
...
ใครคนหนึ่งกล่าวไว้..."ความโกรธอาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ...แต่การขอโทษและให้อภัย เกิดจากความตั้งใจแน่ๆ"
วางโกรธก่อนก็มีความสุขก่อน...ขอโทษคือการวางอัตตาแห่งตนฉันใด...ให้อภัยก็คือการวางอัตตาแห่งตนฉันนั้น...
สุขกันเถอะเรา ^^
ท่ามกลางความวุ่นวายแห่งวิถีแก่งแย่งของผู้คนในปัจจุบันนี้ เราคงต้องหมั่นทบทวนและควบคุมสติตัวเองบ่อยๆ
หลายคนเครียดเรื่องงาน ก็ไปพาลคนใกล้ตัว และผู้คนอีกมากที่แก้ปัญหาส่วนตัวไม่ได้ เลยพาลไปลงกับเพื่อนร่วมงาน
ยอมรับอย่างไม่ปิดบังเลยว่า...ผมเองก็เป็นแบบนี้อยู่บ้างครับ
เคยคุยให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าเราต้องหมั่นคุมสติ ซึ่งทุกคนก็คงทราบดีว่า มันเป็นเรื่องยากเอาการ ที่จะมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา
ความโกรธ อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ยามที่เราขาดสติ
แต่หลังจากสติกลับมาแล้วนั้น หากเราคิดได้ว่าเราผิด สำนึกแห่งความรู้ผิดนั้น ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน
สำนึกเป็นเรื่องของความคิด แต่การเอ่ยปากขอโทษเป็นเรื่องของการกระทำ
เราล่วงรู้ความสำนึกผิดของคนไม่ได้ แต่สัมผัสการขอโทษอย่างจริงใจได้...
...
หากเราเป็นฝ่ายถูก...เราเลือกได้ว่าจะแบกความพยาบาท หรือให้อภัย
ถ้าตอนที่มีปัญหากับอีกฝ่าย เราเป็นฝ่ายไม่ตอบโต้ ถึงตอนเค้ามาขอโทษอย่างจริงใจ การให้อภัยนั้นก็คงไม่ยาก
แต่ถ้าตอนนั้น เราก็ปล่อยศักดาคืนไปด้วย จะบอกว่าเราไม่ผิด ก็พูดยาก เพราะผิดหรือถูก อยู่ที่มองจากมุมไหน มองมุมเรา เราก็ว่าเราถูก มองมุมเค้า เค้าก็ว่าเค้าถูก
ดังนั้น ถ้าทะเลาะกัน คนที่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษอย่างจริงใจก่อน จึงเป็นฝ่ายที่มีความสุขก่อน ส่วนอีกฝ่ายจะให้อภัยหรือไม่ เราคงคาดเดาไม่ได้
...
ใครคนหนึ่งกล่าวไว้..."ความโกรธอาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ...แต่การขอโทษและให้อภัย เกิดจากความตั้งใจแน่ๆ"
วางโกรธก่อนก็มีความสุขก่อน...ขอโทษคือการวางอัตตาแห่งตนฉันใด...ให้อภัยก็คือการวางอัตตาแห่งตนฉันนั้น...
สุขกันเถอะเรา ^^
Comments
Post a Comment