Post#2-30:
เมื่อวานนี้ผมมีเหตุที่จะต้องไปพบคุณหมออีกที ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้พิศมัยโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย
เหตุเกิดเพราะไหมที่เย็บแผลผ่าตัดไม่ยอมละลายซะที ทั้งที่คุณหมอบอกว่าใช้ไหมละลายเย็บแผล
เวลาเราเอารถไปซ่อม แล้วปรากฎว่า รถยังมีปัญหา เราก็เอารถกลับเข้าอู่ เพื่อไปให้ช่างตรวจดู ถ้าเป็นอาการเสียที่ช่างแก้ไว้ไม่สมบูรณ์ ปกติช่างก็จะขอโทษขอโพย และรีบแก้ไขปัญหาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่เรื่องรถเสียกลับนำมาเปรียบเทียบไม่ได้กับการไปหาหมอข้างต้น
คุณหมอบอกว่า ไหมจะละลายเอง ผลปรากฎว่าไหมไม่ละลาย ผมจึงต้องเสียเวลากลับไปหาหมอ ยกมือไหว้ พร้อมเล่าอาการด้วยอารมณ์ต่อว่ากลายๆ
แทนที่จะได้รับคำขอโทษ หมอกลับบอกว่า ผมคงโชคไม่ดีเอง ที่ไหมล๊อตนี้ละลายช้า และลงมือตัดไหมด้วยกรรไกรที่มีทุกอย่างยกเว้นความคม T_T
ระหว่างที่ตัดไหมไป หมอก็บ่นกรรไกรไป แต่ผมน่ะเจ็บทุกครั้งที่หมอทำการเลาะไหมออก พอพยาบาลถามว่า จะเปลี่ยนกรรไกรมั๊ย คุณหมอตอบด้วยความห่วงใยผมว่า “ไม่เป็นไร” เพราะ "ใกล้จะเสร็จแล้ว" เข้าใจว่าหมอคงอยากรีบเลิกงาน
จบการรักษาด้วยการที่หมอบอกผมว่า เสร็จแล้ว กลับบ้านได้
ผมเดินออกจากห้องหมอไปรอจ่ายเงินที่ Cashier พร้อมความไม่เข้าใจหลายๆ เรื่อง
หนึ่ง…ผมเลือกมารักษาที่โรงพยาบาลนี้ จ่ายค่ารักษาในอัตราที่สูง เพราะต้องการแลกกับการรักษาชั้นเยี่ยม แต่ผมกลับต้องมา “ซ่อมแผล” แบบนี้ไปรักษาคลีนิคอาจจะคุ้มกว่ามั๊ย?
สอง…ตกลงมันเป็นความซวยของผมเองใช่มั๊ย ที่ไหมมันไม่ละลาย เอ๊ะหรือหมอใช้ "(จะ) ละลายมั๊ย” แทน “ไหมละลาย" (งงมั๊ยครับ...อิอิ)
สาม…ก็ในเมื่อผลการรักษาไม่ได้เป็นไปตามที่ควร ทำไมผมยังต้องจ่ายเงินให้หมอแก้ไขข้อไม่ถูกต้องที่หมอทำไว้กับผม (วะ) ทีรถซ่อมไม่ดี เรายังเอาไปให้ซ่อมใหม่ได้เลย แถมต่อว่าช่างได้ด้วย แต่นี่ต้องกลับไปไหว้หมอที่ทำงานชุ่ยๆ แถมต้องจ่ายเงินค่ารักษาเพิ่มอีก?
สี่…ตอนหมอบอกว่า “ไม่เป็นไร” หมอไม่เห็นถามผมซักคำ ว่าผมเห็นด้วยมั๊ย? หมอเลือกที่จะให้ตัวเองสบาย แก้ปัญหาด้วยการบ่นว่ากรรไกรไม่คม ทำแผลต่อไป โดยให้ผมทนเจ็บ, แทนที่จะเปลี่ยนกรรไกรใหม่ เพื่อให้ผมเจ็บน้อยลง
ห้า…ความเศร้าแถมท้ายก็คือ คืนวานนี้ ผมต้องให้ภรรยาช่วยตัดไหมอีกครั้ง เพราะคุณหมอท่านตัดไหมไม่หมด แล้วหมอบอกผมว่า "เสร็จแล้ว กลับบ้านได้"? ผมได้แต่ปลงว่า “ตกลงกรูไปหาหมอเพื่ออะไร?" เพราะสุดท้ายก็ต้องกลับมาตัดไหมเอง
...
หรือสำหรับหมอท่านนี้ สะกดคำว่า “จรรยาบรรณ" ไม่เป็น?
หรือสำหรับหมอท่านนี้ คำว่า “หมอ” ไม่ได้เป็น “วิชาชีพ” แต่เป็น “ธุรกิจ”?
หรือสำหรับหมอท่านนี้ การรักษาคนไข้เป็น “ภาระ” ไม่ใช่ "หน้าที่"?
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงศรัทธาใน “อาชีพหมอ” โดยไม่เสื่อมคลาย พร้อมจะยกมือไหว้และจ่ายค่ารักษาอย่างเต็มใจ ยังพร้อมจะไปใช้บริการโรงพยาบาลนี้เหมือนเดิม
แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่กับหมอท่านนี้แน่ๆ ครับ...ให้อภัยครับ แต่ผมไม่มีวันลืม -"-
เมื่อวานนี้ผมมีเหตุที่จะต้องไปพบคุณหมออีกที ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้พิศมัยโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย
เหตุเกิดเพราะไหมที่เย็บแผลผ่าตัดไม่ยอมละลายซะที ทั้งที่คุณหมอบอกว่าใช้ไหมละลายเย็บแผล
เวลาเราเอารถไปซ่อม แล้วปรากฎว่า รถยังมีปัญหา เราก็เอารถกลับเข้าอู่ เพื่อไปให้ช่างตรวจดู ถ้าเป็นอาการเสียที่ช่างแก้ไว้ไม่สมบูรณ์ ปกติช่างก็จะขอโทษขอโพย และรีบแก้ไขปัญหาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่เรื่องรถเสียกลับนำมาเปรียบเทียบไม่ได้กับการไปหาหมอข้างต้น
คุณหมอบอกว่า ไหมจะละลายเอง ผลปรากฎว่าไหมไม่ละลาย ผมจึงต้องเสียเวลากลับไปหาหมอ ยกมือไหว้ พร้อมเล่าอาการด้วยอารมณ์ต่อว่ากลายๆ
แทนที่จะได้รับคำขอโทษ หมอกลับบอกว่า ผมคงโชคไม่ดีเอง ที่ไหมล๊อตนี้ละลายช้า และลงมือตัดไหมด้วยกรรไกรที่มีทุกอย่างยกเว้นความคม T_T
ระหว่างที่ตัดไหมไป หมอก็บ่นกรรไกรไป แต่ผมน่ะเจ็บทุกครั้งที่หมอทำการเลาะไหมออก พอพยาบาลถามว่า จะเปลี่ยนกรรไกรมั๊ย คุณหมอตอบด้วยความห่วงใยผมว่า “ไม่เป็นไร” เพราะ "ใกล้จะเสร็จแล้ว" เข้าใจว่าหมอคงอยากรีบเลิกงาน
จบการรักษาด้วยการที่หมอบอกผมว่า เสร็จแล้ว กลับบ้านได้
ผมเดินออกจากห้องหมอไปรอจ่ายเงินที่ Cashier พร้อมความไม่เข้าใจหลายๆ เรื่อง
หนึ่ง…ผมเลือกมารักษาที่โรงพยาบาลนี้ จ่ายค่ารักษาในอัตราที่สูง เพราะต้องการแลกกับการรักษาชั้นเยี่ยม แต่ผมกลับต้องมา “ซ่อมแผล” แบบนี้ไปรักษาคลีนิคอาจจะคุ้มกว่ามั๊ย?
สอง…ตกลงมันเป็นความซวยของผมเองใช่มั๊ย ที่ไหมมันไม่ละลาย เอ๊ะหรือหมอใช้ "(จะ) ละลายมั๊ย” แทน “ไหมละลาย" (งงมั๊ยครับ...อิอิ)
สาม…ก็ในเมื่อผลการรักษาไม่ได้เป็นไปตามที่ควร ทำไมผมยังต้องจ่ายเงินให้หมอแก้ไขข้อไม่ถูกต้องที่หมอทำไว้กับผม (วะ) ทีรถซ่อมไม่ดี เรายังเอาไปให้ซ่อมใหม่ได้เลย แถมต่อว่าช่างได้ด้วย แต่นี่ต้องกลับไปไหว้หมอที่ทำงานชุ่ยๆ แถมต้องจ่ายเงินค่ารักษาเพิ่มอีก?
สี่…ตอนหมอบอกว่า “ไม่เป็นไร” หมอไม่เห็นถามผมซักคำ ว่าผมเห็นด้วยมั๊ย? หมอเลือกที่จะให้ตัวเองสบาย แก้ปัญหาด้วยการบ่นว่ากรรไกรไม่คม ทำแผลต่อไป โดยให้ผมทนเจ็บ, แทนที่จะเปลี่ยนกรรไกรใหม่ เพื่อให้ผมเจ็บน้อยลง
ห้า…ความเศร้าแถมท้ายก็คือ คืนวานนี้ ผมต้องให้ภรรยาช่วยตัดไหมอีกครั้ง เพราะคุณหมอท่านตัดไหมไม่หมด แล้วหมอบอกผมว่า "เสร็จแล้ว กลับบ้านได้"? ผมได้แต่ปลงว่า “ตกลงกรูไปหาหมอเพื่ออะไร?" เพราะสุดท้ายก็ต้องกลับมาตัดไหมเอง
...
หรือสำหรับหมอท่านนี้ สะกดคำว่า “จรรยาบรรณ" ไม่เป็น?
หรือสำหรับหมอท่านนี้ คำว่า “หมอ” ไม่ได้เป็น “วิชาชีพ” แต่เป็น “ธุรกิจ”?
หรือสำหรับหมอท่านนี้ การรักษาคนไข้เป็น “ภาระ” ไม่ใช่ "หน้าที่"?
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงศรัทธาใน “อาชีพหมอ” โดยไม่เสื่อมคลาย พร้อมจะยกมือไหว้และจ่ายค่ารักษาอย่างเต็มใจ ยังพร้อมจะไปใช้บริการโรงพยาบาลนี้เหมือนเดิม
แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่กับหมอท่านนี้แน่ๆ ครับ...ให้อภัยครับ แต่ผมไม่มีวันลืม -"-
Comments
Post a Comment