Post#2-51:
จากการสังเกต ผมพบว่า บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายจะรู้สึกเสียหน้ามาก หากต้องเอ่ยปากถามอะไรใคร เวลาที่ตัวเองไม่รู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวลาที่ขับรถหลงทาง เรียกว่า ยอมหลงดีกว่ายอมเอ่ยปากถามทาง ว่างั้น
ส่วนคุณสาวๆ บางท่าน ก็จะมีอาการไม่ชอบเสียหน้าในที่สาธารณะ
เช่นในห้องประชุม ถ้ามีคนพูดอะไรซักอย่างที่เธอไม่เข้าใจ ก็จะทำเหมือนเข้าใจ เออออไปตามเรื่อง ประชุมเสร็จค่อยมาถามเพื่อนเอา ว่างั้น
ที่ฮาก็คือ พอมาถามเพื่อน เพื่อนดันบอกว่า "อ้าว ชั้นก็กะมาถามแก๊" ซะงั้น -"-
...
จะว่าไปแล้ว เรื่องแบบนี้ก็อาจจะเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ คือไม่อยากดูเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่น
ทั้งๆ ที่ตอนถามน่ะ อาจจะดูโง่ไปบ้าง แต่หลังจากถามไปแล้ว เราจะหายโง่
กลับกันที่เลือกจะไม่ถาม เลยดูไม่โง่ในสายตาคนอื่น แต่ภายในหัวน่ะ แบกความโง่ไว้อีกนานเลย
ดังนั้น เราอาจจะต้องเลือกว่า จะเป็นคนที่ดูดีภายนอกแต่แบกความโง่ไว้ภายใน หรือดูเป็นคนโง่ภายนอก แต่เปี่ยมไปด้วยความฉลาดภายใน
...
สาเหตุที่ผมใช้คำว่า "โง่" แทนคำว่า "ไม่ฉลาด" นั้น เป็นเพราะองค์นบีมูฮัมหมัด โปรดสอนไว้ว่า
"ยารักษาความโง่ คือคำถาม"
จากการสังเกต ผมพบว่า บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายจะรู้สึกเสียหน้ามาก หากต้องเอ่ยปากถามอะไรใคร เวลาที่ตัวเองไม่รู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวลาที่ขับรถหลงทาง เรียกว่า ยอมหลงดีกว่ายอมเอ่ยปากถามทาง ว่างั้น
ส่วนคุณสาวๆ บางท่าน ก็จะมีอาการไม่ชอบเสียหน้าในที่สาธารณะ
เช่นในห้องประชุม ถ้ามีคนพูดอะไรซักอย่างที่เธอไม่เข้าใจ ก็จะทำเหมือนเข้าใจ เออออไปตามเรื่อง ประชุมเสร็จค่อยมาถามเพื่อนเอา ว่างั้น
ที่ฮาก็คือ พอมาถามเพื่อน เพื่อนดันบอกว่า "อ้าว ชั้นก็กะมาถามแก๊" ซะงั้น -"-
...
จะว่าไปแล้ว เรื่องแบบนี้ก็อาจจะเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ คือไม่อยากดูเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่น
ทั้งๆ ที่ตอนถามน่ะ อาจจะดูโง่ไปบ้าง แต่หลังจากถามไปแล้ว เราจะหายโง่
กลับกันที่เลือกจะไม่ถาม เลยดูไม่โง่ในสายตาคนอื่น แต่ภายในหัวน่ะ แบกความโง่ไว้อีกนานเลย
ดังนั้น เราอาจจะต้องเลือกว่า จะเป็นคนที่ดูดีภายนอกแต่แบกความโง่ไว้ภายใน หรือดูเป็นคนโง่ภายนอก แต่เปี่ยมไปด้วยความฉลาดภายใน
...
สาเหตุที่ผมใช้คำว่า "โง่" แทนคำว่า "ไม่ฉลาด" นั้น เป็นเพราะองค์นบีมูฮัมหมัด โปรดสอนไว้ว่า
"ยารักษาความโง่ คือคำถาม"
Comments
Post a Comment