Skip to main content

Post#2-49: คนรวยจริงๆ มีอยู่ในโลก

Post#2-49:
แน่นอนว่า คนรวยเงินมีอยู่แค่หยิบมือบนโลกนี้ ในขณะที่คนที่ไม่ค่อยมั่งมีนี่พบได้ดาษดื่นทั่วไป

คนรวยมากๆ มักจะชอบพูดประโยคที่คนธรรมดาทั่วไปฟังแล้วหมั่นไส้ว่า "เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด" แต่ถ้าคุณมีเงินมากพอ...คุณจะพบว่าพวกเค้าพูดไม่ผิด...

ปล่าวครับ ผมไม่ได้มีเงินมากขนาดที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนที่รวยล้นฟ้าหรอกครับ แต่แค่เคยมีโอกาสสัมผัสกับคนรวยมากๆ อยู่บ่อยๆ ในช่วงหนึ่งของชีวิต

คนรวยมากๆ (ไม่ใช่ทุกคนนะครับ) ถึงจุดๆ หนึ่ง เค้าจะรู้สึกว่า มันจริงอย่างที่สุดที่เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ ยิ่งเค้าใช้เงินมากเท่าไหร่ ช่องโหว่ในใจยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ที่เป็นแบบนี้ ส่วนตัวผมคิดว่า เป็นเพราะวิถีแห่งการใช้เงินมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...ความต่างระหว่าง "ให้เงินคนที่เรารัก" กับ "ใช้เงินเพื่อคนที่เรารัก" มันมีมากจริงๆ

ลองดูตัวอย่างของการ "ให้เงิน" กับ "ใช้เงิน" ดูมั๊ยครับ...

เราให้เงินแฟน 2 พัน ไปซื้อเสื้อใหม่ กับเราพาแฟนไปซื้อเสื้อราคา 2 พัน...แม้จะใช้เงิน 2 พันเท่ากัน อย่างไหนที่แฟนเราจะรู้สึกขอบคุณเรามากกว่ากัน?

เราให้เงินลูก 5 พัน เท่ากับค่าแรงทั้งวันของเรา กับยอมให้บริษัทหักเงิน 5 พัน เพื่อมาอยู่กับลูก...แม้จะ 5 พันเท่ากัน แต่อย่างไหนที่ลูกอยากได้มากกว่ากัน?

เราซื้อนาฬิการาคา 2 หมื่น ให้พ่อ ในวันเกิด กับพาพ่อไปกินข้าวมื้อละไม่เกิน 2 พัน เคยถามพ่อมั๊ย ว่าอยากได้แบบไหน?

เราให้เงินแม่ ค่าผ่าตัดและพักฟื้น 5 หมื่น กับขับรถพาแม่ไปหาหมอและไปเยี่ยมแม่ระหว่างพักฟื้น แม้จะจ่าย 5 หมื่นเท่ากัน แต่แบบไหนกันที่แม่จะรู้สึกว่าเรารักแม่จริงๆ?

จริงที่สุดครับ ว่าหากไม่มีเงินเราก็อยู่ได้ยาก ผมไม่เถียงและยอมรับโดยดุษฎี...แต่สำคัญไม่น้อยกว่า "การมีเงิน" ก็คือ "การใช้เงินให้ถูกวิถี" หรือมิใช่?

การเอาเงินให้คนที่เรารัก ต่างจากการใช้เงินเพื่อคนที่เรารัก...และไม่ว่าคุณจะรวยล้นฟ้าแค่ไหน ช่องโหว่ในใจของคุณก็ไม่มีทางอุดได้ด้วยเงิน...หากคุณไม่เข้าใจวิถีของการใช้เงิน

คนที่เรารักและรักเรา ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับจำนวนเงินที่เราให้ แต่พวกเค้าให้ความสำคัญกับวิถีที่เรามอบเงินให้กับพวกเค้า

ผมไม่ได้เป็นพวกองุ่นเปรี้ยว ที่ไม่ได้มีเงินมากนักแต่เที่ยวไปอิจฉาคนมั่งมี...ผมเองก็เหมือนหลายๆ คนบนโลกนี้ ที่อยากมีเงินล้นฟ้า แต่ถ้ามีเงินมากกว่าล้นฟ้า แต่ครอบครัวต้องเป็นแบบ "บ้านแตกสาแหรกขาด" ผมก็อยากรู้ว่า มีใครอยากจะแลก?

จะมีความสุขอะไรกับการนอนอยู่บนกองเงิน โดยไม่มีคนที่เรารักและรักเราอยู่เคียงข้าง?

ใครคนหนึ่งเคยว่าไว้..."You're not rich until you have something money can't buy."

แปลว่า... "คุณยังไม่ใช่คนรวยจริงๆ หรอก จนกว่าคุณจะมีสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้"

จริงมั๊ยครับ?

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...