Skip to main content

Post#2-29: Logical Thinking

Post#2-29:
มีหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ที่ผมมึนกับตรรกทางความคิด (Logical Thinking) ของลูกน้อง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมถือว่าคอขาดบาดตายมาก เพราะถ้า Logical Thinking ผิด ทุกอย่างที่ตามมาก็จะผิดทั้งหมด

ลองฟังบางตัวอย่างดูมั๊ยครับ...

ผมถามหน่วยงาน A ว่า ทำไมไม่ตรวจสอบว่าของที่หน่วยงาน B เบิกไป ถูกต้องจริงหรือไม่ คำตอบคือ คนไม่พอ ไม่มีเวลาตรวจสอบ ก็เลยเลือกที่จะไม่ตรวจ...

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณมีเวลาหรือกำลังคนหรือไม่ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า หน้าที่ของคุณต้องตรวจ ดังนั้น Logical Thinking ที่ผิดก็คือ มันไม่ใช่ "การเลือก" ที่จะทำหรือไม่ แต่มันเป็นสิ่งที่ "ต้อง" ทำ

อีกตัวอย่างหนึ่ง...

ลูกน้อง A มาต่อว่าผม ว่าผมไม่ควรสั่งให้ลูกน้อง B สำเนาเอกสารเก็บไว้ เพราะ A เห็นว่า B เป็นแค่พนักงาน "ทั่วไป" เธอต่างหากควรต้องเป็นคนทำ เพราะเป็นงานโดยตรงของเธอ...

โดยอำนาจและหน้าที่แล้ว เป็นสิทธิ์ของผู้บริหารที่จะมอบหมายงานใดๆ ให้คนที่ผู้บริหารคิดว่าเหมาะสมและไว้วางใจได้ ให้เป็นผู้ที่ทำงานนั้นๆ

ดังนั้น Logical Thinking ที่ผิดของ A มีถึง 2 เรื่อง คือ อำนาจในการมอบหมายงาน เป็นของผู้บริหาร ไม่ใช่ของเธอ และความไว้วางใจในงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง

แปลว่า "พนักงานทั่วไป" (Officer) ก็ไม่ได้มีคุณค่าน้อยกว่า "ผู้บริหารชั้นต้น" (Front-line Manager)

...

จะเห็นว่า ถ้ามีปัญหาที่ Logical Thinking บกพร่อง ทุกอย่างที่ตามมาจะมีปัญหาทันที เช่นที่ยกตัวอย่างไว้ คือแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนไม่ทำไม่ได้ และสำคัญผิดในอำนาจหน้าที่ของตน

ทั้ง 2 ตัวอย่าง ผมไม่ได้โกรธครับ แต่มึนและปลง...แต่ถ้าผมคุยให้ท่าน A ทั้งสองท่านฟังแล้วยังไม่คิดปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็....... (โปรดเติมคำในช่องว่างครับ)

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...