Post#3-235:
หนึ่งในปัญหาระหว่างหน่วยงานก็ดี หรือปัญหาระหว่างการทำงานข้ามองค์กรก็ดี...ย่อมหนีไม่พ้น "ความเห็นต่าง"
หน่วยงาน A อยากจะทำแบบนี้ แต่หน่วยงาน B ไม่เห็นด้วย...หรือไม่ก็ลูกค้าจะเอาแบบนี้ แต่เราเห็นว่าแนวทางของลูกค้านั้นอาจยังไม่ถูกต้อง
เมื่อปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้น...ผมไม่แน่ใจว่าคนที่กำกับดูแลงาน หรือคนที่ประสานงานกับลูกค้า...มีกี่คนกันนะ...ที่พยายามที่จะคลี่คลายความเห็นต่างที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำเรื่องมาถึงผู้มีอำนาจระดับสูงขึ้นไป?
...
จากประสบการณ์ที่ผมพบเจอมา...โดยมากแล้ว เมื่อเกิดความเห็นต่างขึ้น พนักงานระดับปฏิบัติการ มักจะไม่ค่อยหาทางออกร่วมกัน
...แต่มักจะเอาชนะคะคานกันด้วยเหตุผลของตัวเอง เรียกว่า ต่างฝ่ายต่างอยากทำงานง่าย ไม่ได้คำนึงถึงภาพรวมขององค์กร หรือประโยชน์ร่วมของแต่ละองค์กร เท่าใดนัก
นี่เป็นคำอธิบายว่า ทำไมระดับผู้บริหารคุยกันแล้ว ดูเหมือนง่ายและงานน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี...
แต่แท้ที่จริงแล้ว เป้าประสงค์ของความร่วมมือของระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ กลับกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของงาน
...
ใครเจอสถานการณ์แบบนี้...ผมแนะนำให้ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
เปลี่ยนจาก ทำไมเราต้องเปลี่ยน ให้หน่วยงานนั้นเปลี่ยนวิธีทำงานเองสิ...เป็น ถ้าเปลี่ยนวิธีทำงานแล้ว องค์กรจะได้อะไร?
เปลี่ยนจาก ถ้าลูกค้ายืนกรานว่าจะเอาแบบนี้ งั้นก็เชิญไปหาซื้อที่อื่น...เป็น จะหาวิธีทำความเข้าใจกับลูกค้าแบบไหนดีนะ
...
ส่วนใครที่เป็นนาย...เวลาที่ฟังลูกน้องรายงาน ก็จงแยกเนื้อหาออกจากดราม่า
บ่อยครั้งนายก็ "พัง" และตัดสินใจผิดพลาด ด้วยเหตุที่เจอพวกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ และยุให้รำตำให้รั่ว
หลายครั้งชนวนเหตุของความกินแหนงของ 2 หน่วยงาน หรือ 2 องค์กร เกิดจากความเข้าใจผิดของคนไม่กี่คน
...
ดังนั้น เวลาเจอสถานการณ์ของความเห็นต่าง...จึงควรพิจารณาให้เห็นจริงถึง แก่นของปัญหา
อย่าปล่อยให้เปลือกนอกหรือ ego มาบดบังความถูกต้องที่ควรจะเป็น
ถ้ายอมถอยเพื่อให้งานเดินไปข้างหน้าได้...แม้จะดูเหมือนแพ้ แต่เราชนะ
ถ้าละ ego ได้...การก้มหัวรับฟังความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้า ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรี
...แตกต่าง จึงเป็นคนละเรื่องกับ แตกแยก เช่นเดียวกับ ยอมถอย เป็นคนละเรื่องกับ ยอมแพ้...
หนึ่งในปัญหาระหว่างหน่วยงานก็ดี หรือปัญหาระหว่างการทำงานข้ามองค์กรก็ดี...ย่อมหนีไม่พ้น "ความเห็นต่าง"
หน่วยงาน A อยากจะทำแบบนี้ แต่หน่วยงาน B ไม่เห็นด้วย...หรือไม่ก็ลูกค้าจะเอาแบบนี้ แต่เราเห็นว่าแนวทางของลูกค้านั้นอาจยังไม่ถูกต้อง
เมื่อปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้น...ผมไม่แน่ใจว่าคนที่กำกับดูแลงาน หรือคนที่ประสานงานกับลูกค้า...มีกี่คนกันนะ...ที่พยายามที่จะคลี่คลายความเห็นต่างที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำเรื่องมาถึงผู้มีอำนาจระดับสูงขึ้นไป?
...
จากประสบการณ์ที่ผมพบเจอมา...โดยมากแล้ว เมื่อเกิดความเห็นต่างขึ้น พนักงานระดับปฏิบัติการ มักจะไม่ค่อยหาทางออกร่วมกัน
...แต่มักจะเอาชนะคะคานกันด้วยเหตุผลของตัวเอง เรียกว่า ต่างฝ่ายต่างอยากทำงานง่าย ไม่ได้คำนึงถึงภาพรวมขององค์กร หรือประโยชน์ร่วมของแต่ละองค์กร เท่าใดนัก
นี่เป็นคำอธิบายว่า ทำไมระดับผู้บริหารคุยกันแล้ว ดูเหมือนง่ายและงานน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี...
แต่แท้ที่จริงแล้ว เป้าประสงค์ของความร่วมมือของระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ กลับกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของงาน
...
ใครเจอสถานการณ์แบบนี้...ผมแนะนำให้ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
เปลี่ยนจาก ทำไมเราต้องเปลี่ยน ให้หน่วยงานนั้นเปลี่ยนวิธีทำงานเองสิ...เป็น ถ้าเปลี่ยนวิธีทำงานแล้ว องค์กรจะได้อะไร?
เปลี่ยนจาก ถ้าลูกค้ายืนกรานว่าจะเอาแบบนี้ งั้นก็เชิญไปหาซื้อที่อื่น...เป็น จะหาวิธีทำความเข้าใจกับลูกค้าแบบไหนดีนะ
...
ส่วนใครที่เป็นนาย...เวลาที่ฟังลูกน้องรายงาน ก็จงแยกเนื้อหาออกจากดราม่า
บ่อยครั้งนายก็ "พัง" และตัดสินใจผิดพลาด ด้วยเหตุที่เจอพวกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ และยุให้รำตำให้รั่ว
หลายครั้งชนวนเหตุของความกินแหนงของ 2 หน่วยงาน หรือ 2 องค์กร เกิดจากความเข้าใจผิดของคนไม่กี่คน
...
ดังนั้น เวลาเจอสถานการณ์ของความเห็นต่าง...จึงควรพิจารณาให้เห็นจริงถึง แก่นของปัญหา
อย่าปล่อยให้เปลือกนอกหรือ ego มาบดบังความถูกต้องที่ควรจะเป็น
ถ้ายอมถอยเพื่อให้งานเดินไปข้างหน้าได้...แม้จะดูเหมือนแพ้ แต่เราชนะ
ถ้าละ ego ได้...การก้มหัวรับฟังความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้า ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรี
...แตกต่าง จึงเป็นคนละเรื่องกับ แตกแยก เช่นเดียวกับ ยอมถอย เป็นคนละเรื่องกับ ยอมแพ้...
Comments
Post a Comment