Post#3-227:
หนึ่งในเหตุผลที่เรามักจะใช้บอกฝ่ายที่เสียประโยชน์จากความผิดพลาดของเรา มักจะมีคำว่า "ไม่ได้ตั้งใจ" หรือ "ไม่ได้เจตนา" อยู่ด้วย
ถ้าเป็นความจริง ตัวเราก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย...เพราะไม่ได้ตั้งใจให้ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นสักหน่อย
น่าเสียดายที่ "ความตั้งใจ" หรือ "เจตนา" นั้น เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้...ดังนั้น เราจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้
...
เมื่อทำผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย...เราควรสำนึกผิด, ขอโทษ และแก้ไขหรือชดเชยความผิดพลาดนั้นๆ
ส่วนมากผู้คนที่ผิดพลาดจะสำนึกผิด, ขอโทษ แต่ไม่ค่อยจะแก้ไขหรือชดเชย...อาจจะคิดว่า ขอโทษแล้วก็แล้วกัน
ถ้าเราทำทุกอย่างครบถ้วน...ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่อีกฝ่ายแล้วล่ะครับ ว่าจะถือโทษกับเราต่อไปหรือไม่
...
คราวนี้ ก็อาจจะมี "คนนอก" ที่อาจจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ที่อาจจะตัดสินเราจากคำบอกเล่าจากตัวคนที่เสียประโยชน์จากเรา หรือจากสื่อต่างๆ ที่อาจจะส่งสารไม่ครบถ้วน
ทำให้บางครั้งกลายเป็น "ตราบาป" ติดตัวเรา...โดยที่เราไม่มีโอกาสอธิบายใดๆ และถึงแม้จะอธิบาย ก็จะกลายเป็นเราแก้ตัวอยู่ดี
ใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้อยู่...ก็ขอให้ทำใจครับ ไม่ต้องไปเต้นตามหรือกระวนกระวายเกินกว่าเหตุ
...
คนที่รู้จักเราดี เค้าจะถาม...ส่วนคนที่ไม่รู้จักเราดี ก็อาจจะซุบซิบนินทา ค่อนขอด และทำกิริยาไม่ดีใส่เรา
ต่อให้ในอดีตเราเคยเป็นคนไม่ดีมาก่อน แต่ตอนนี้เรากลับตัวกลับใจได้...ยังไงเสีย คนที่อคติกับเราก็จะอคติอยู่อย่างนั้นเอง
ทางเดียวที่จะพิสูจน์ ก็คือใช้ชีวิตไปอย่างปกตินั่นแหละครับ...เพราะถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้คนตัดสิน รับรองว่า ความจริงก็จะปรากฏขึ้น
...
ส่วนคนที่มีอคติกับเรา...ก็ขอให้เราปลงและคิดตามที่ Mandy Hale (นักเขียน Best Seller ชาวอเมริกัน) สอนใจไว้ก็แล้วกันครับ
"People who judge you by your past don't belong in your present."
แปลว่า "ผู้คนที่ตัดสินคุณจากอดีต ไม่ได้มีค่ากับปัจจุบันของคุณ"
...แปลอีกทีว่า...ก็อย่าได้แคร์คนที่เหยียบย่ำคนที่มีอดีตที่ผิดพลาด นั่นแล...
หนึ่งในเหตุผลที่เรามักจะใช้บอกฝ่ายที่เสียประโยชน์จากความผิดพลาดของเรา มักจะมีคำว่า "ไม่ได้ตั้งใจ" หรือ "ไม่ได้เจตนา" อยู่ด้วย
ถ้าเป็นความจริง ตัวเราก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย...เพราะไม่ได้ตั้งใจให้ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นสักหน่อย
น่าเสียดายที่ "ความตั้งใจ" หรือ "เจตนา" นั้น เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้...ดังนั้น เราจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้
...
เมื่อทำผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย...เราควรสำนึกผิด, ขอโทษ และแก้ไขหรือชดเชยความผิดพลาดนั้นๆ
ส่วนมากผู้คนที่ผิดพลาดจะสำนึกผิด, ขอโทษ แต่ไม่ค่อยจะแก้ไขหรือชดเชย...อาจจะคิดว่า ขอโทษแล้วก็แล้วกัน
ถ้าเราทำทุกอย่างครบถ้วน...ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่อีกฝ่ายแล้วล่ะครับ ว่าจะถือโทษกับเราต่อไปหรือไม่
...
คราวนี้ ก็อาจจะมี "คนนอก" ที่อาจจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ที่อาจจะตัดสินเราจากคำบอกเล่าจากตัวคนที่เสียประโยชน์จากเรา หรือจากสื่อต่างๆ ที่อาจจะส่งสารไม่ครบถ้วน
ทำให้บางครั้งกลายเป็น "ตราบาป" ติดตัวเรา...โดยที่เราไม่มีโอกาสอธิบายใดๆ และถึงแม้จะอธิบาย ก็จะกลายเป็นเราแก้ตัวอยู่ดี
ใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้อยู่...ก็ขอให้ทำใจครับ ไม่ต้องไปเต้นตามหรือกระวนกระวายเกินกว่าเหตุ
...
คนที่รู้จักเราดี เค้าจะถาม...ส่วนคนที่ไม่รู้จักเราดี ก็อาจจะซุบซิบนินทา ค่อนขอด และทำกิริยาไม่ดีใส่เรา
ต่อให้ในอดีตเราเคยเป็นคนไม่ดีมาก่อน แต่ตอนนี้เรากลับตัวกลับใจได้...ยังไงเสีย คนที่อคติกับเราก็จะอคติอยู่อย่างนั้นเอง
ทางเดียวที่จะพิสูจน์ ก็คือใช้ชีวิตไปอย่างปกตินั่นแหละครับ...เพราะถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้คนตัดสิน รับรองว่า ความจริงก็จะปรากฏขึ้น
...
ส่วนคนที่มีอคติกับเรา...ก็ขอให้เราปลงและคิดตามที่ Mandy Hale (นักเขียน Best Seller ชาวอเมริกัน) สอนใจไว้ก็แล้วกันครับ
"People who judge you by your past don't belong in your present."
แปลว่า "ผู้คนที่ตัดสินคุณจากอดีต ไม่ได้มีค่ากับปัจจุบันของคุณ"
...แปลอีกทีว่า...ก็อย่าได้แคร์คนที่เหยียบย่ำคนที่มีอดีตที่ผิดพลาด นั่นแล...
Comments
Post a Comment