Post#3-216:
หนึ่งในความฝันที่ผมอยากจะทำให้เป็นความจริงก็คือ การเปิดร้านอาหาร, ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว ผมทำอาหารแทบจะไม่เป็นเลย
แต่แล้ววันนี้ ความฝันเล็กๆ ของผมก็เป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยความช่วยเหลือของแม่และน้องสาวทั้ง 2 คน
แม้ผมจะไม่รู้ว่า ความฝันครั้งนี้ จะจบลงด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่ผมก็ยินดีที่ในที่สุดผมก็ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้...ไม่ได้เป็นแค่ความฝันในยามหลับ และกลายเป็นความเพื้อฝันเมื่อยามตื่น
…
ต้องบอกว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมใช้เวลาค่อนข้างมากในการเตรียมตัวเพื่อที่จะทำให้ร้านออกมาได้อย่างที่ใจหวัง
ถึงวันนี้ ผมพอใจแค่ไม่ถึง 50% ของที่คาดหวังด้วยซ้ำไป...ด้วยว่าอะไรๆ มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์และวางแผนไว้
ซึ่งผมก็ได้เคยแชร์ไว้หลายครั้งว่า ความผิดพลาดมันอยู่คู่กับการสร้างผลงาน ดังนั้น ถ้าเราไม่กลัวที่จะเจอกับมัน “ปัญหาที่เกิดขึ้น” มันก็จะกลายเป็น “ความท้าทาย” ที่เราต้องก้าวข้าม ก็เท่านั้น
…
ร้านนี้เกิดจากความฝันร่วมกันของผมและน้องสาว (ที่ชอบและหลงใหลในการทำอาหาร)
ว่าไปแล้ว ก็ต้องเล่าไปถึงคุณแม่ของเรา ซึ่งเป็นมืออาชีพในการทำอาหารมากว่า 30 ปี และ DNA นี้คงไหลเวียนอยู่ในตัวน้องสาวผมค่อนข้างมาก พิสูจน์ได้จากน้องสาวคนโต ก็เปิดร้านอาหารอยู่ที่ประเทศอเมริกา เช่นกัน
ส่วนตัวผม ถนัดเป็น "นักชิม" เสียมากกว่า
หลังเรียนจบสายตรงด้านการทำอาหาร, น้องสาวผมคนนี้ (Chef Bella) ก็ได้ไปเป็นลูกมือช่วยแม่อยู่หลายปี จนมาปีนี้ เธอจึงได้จับมือกับผมในการเปิด Food Philosophy นี้ขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อสูตรเด็ดเคล็ดลับต่างๆ รวมถึงเป็นการแสดงฝีมือที่เธอสั่งสมมาอย่างยาวนานด้วย
ครั้งนี้ เราวาง Concept ของร้านไว้ที่ การเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังไม่อาจตัดใจเด็ดขาดกับจานเด็ดบางอย่างได้
ดังนั้น Food Philosophy จึงเอาใจลูกค้าด้วยการเน้น Clean Food เป็นหลัก แต่ก็ไม่ลืมจะเอาใจคุณสาวๆ ด้วยเมนูของหวาน (เพื่อสุขภาพ) ด้วยเช่นกัน
Chef Bella เป็นมือขวาของคุณแม่ในการรังสรรค์อาหารให้กับทีมชาติไทย (ชุดที่มีโค้ชซิโก้ เป็นผู้ควบคุมทีม) ใน Camp เก็บตัว นอกจากนั้น เธอก็ยังร่วมกับคุณแม่ในการทำ Catering Service อีกด้วย
อาหารทุก Menu ของ Food Philosophy จึงต้องประกอบไปด้วย ความสะอาด, ความอร่อย และความคุ้มค่า...อีกทั้ง เรายินดีบริการลูกค้าทุกท่าน ทั้งแบบ Sit down Dining และ Take Away
และถึงแม้จะ Take Away กลับบ้าน, ก็แค่อุ่นด้วย Microwave ก็อร่อยได้เต็มเปี่ยมเหมือนนั่งทานที่ร้าน เพราะ Chef Bella รังสรรค์ทุก Menu มาเป็นอย่างดี เพื่อให้ตอบโจทย์ Life Style ของ Urban Life ที่เน้นความสะดวก (แต่ก็อยากได้อร่อยและสะอาดด้วยเช่นกัน)
…
จบการโฆษณาเรื่องร้าน...ก็มาว่ากันต่อถึงเรื่องการทำความฝันให้เป็นจริง
ความฝันนั้นเป็นเรื่องสวยงาม...แต่ทว่า มันก็แฝงความน่ากลัวอยู่
ความน่ากลัวที่ว่า ก็คือ มันทำให้เรามัวแต่ฝันอยู่นั่นเอง, ทำให้เราหลงอยู่กับความไม่จริง อยู่กับมโน
ทางเดียวที่เราจะสลายมโนเหล่านี้ได้ มีแต่การลงมือทำให้เป็นความจริง...ทั้งที่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ความฝันนั้นจะสำเร็จหรือไม่
แต่ถึงแม้ว่า มันจะจบลงด้วยความล้มเหลว...แต่เราก็หาใช่จะเป็น “ผู้แพ้”
…นั่นเพราะ เราชนะตั้งแต่ตอนที่ “กล้าลงมือทำ” แล้ว นั่นเองครับ...
#FoodPhilosophy
หนึ่งในความฝันที่ผมอยากจะทำให้เป็นความจริงก็คือ การเปิดร้านอาหาร, ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว ผมทำอาหารแทบจะไม่เป็นเลย
แต่แล้ววันนี้ ความฝันเล็กๆ ของผมก็เป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยความช่วยเหลือของแม่และน้องสาวทั้ง 2 คน
แม้ผมจะไม่รู้ว่า ความฝันครั้งนี้ จะจบลงด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่ผมก็ยินดีที่ในที่สุดผมก็ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้...ไม่ได้เป็นแค่ความฝันในยามหลับ และกลายเป็นความเพื้อฝันเมื่อยามตื่น
…
ต้องบอกว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมใช้เวลาค่อนข้างมากในการเตรียมตัวเพื่อที่จะทำให้ร้านออกมาได้อย่างที่ใจหวัง
ถึงวันนี้ ผมพอใจแค่ไม่ถึง 50% ของที่คาดหวังด้วยซ้ำไป...ด้วยว่าอะไรๆ มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์และวางแผนไว้
ซึ่งผมก็ได้เคยแชร์ไว้หลายครั้งว่า ความผิดพลาดมันอยู่คู่กับการสร้างผลงาน ดังนั้น ถ้าเราไม่กลัวที่จะเจอกับมัน “ปัญหาที่เกิดขึ้น” มันก็จะกลายเป็น “ความท้าทาย” ที่เราต้องก้าวข้าม ก็เท่านั้น
…
ร้านนี้เกิดจากความฝันร่วมกันของผมและน้องสาว (ที่ชอบและหลงใหลในการทำอาหาร)
ว่าไปแล้ว ก็ต้องเล่าไปถึงคุณแม่ของเรา ซึ่งเป็นมืออาชีพในการทำอาหารมากว่า 30 ปี และ DNA นี้คงไหลเวียนอยู่ในตัวน้องสาวผมค่อนข้างมาก พิสูจน์ได้จากน้องสาวคนโต ก็เปิดร้านอาหารอยู่ที่ประเทศอเมริกา เช่นกัน
ส่วนตัวผม ถนัดเป็น "นักชิม" เสียมากกว่า
หลังเรียนจบสายตรงด้านการทำอาหาร, น้องสาวผมคนนี้ (Chef Bella) ก็ได้ไปเป็นลูกมือช่วยแม่อยู่หลายปี จนมาปีนี้ เธอจึงได้จับมือกับผมในการเปิด Food Philosophy นี้ขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อสูตรเด็ดเคล็ดลับต่างๆ รวมถึงเป็นการแสดงฝีมือที่เธอสั่งสมมาอย่างยาวนานด้วย
ครั้งนี้ เราวาง Concept ของร้านไว้ที่ การเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังไม่อาจตัดใจเด็ดขาดกับจานเด็ดบางอย่างได้
ดังนั้น Food Philosophy จึงเอาใจลูกค้าด้วยการเน้น Clean Food เป็นหลัก แต่ก็ไม่ลืมจะเอาใจคุณสาวๆ ด้วยเมนูของหวาน (เพื่อสุขภาพ) ด้วยเช่นกัน
Chef Bella เป็นมือขวาของคุณแม่ในการรังสรรค์อาหารให้กับทีมชาติไทย (ชุดที่มีโค้ชซิโก้ เป็นผู้ควบคุมทีม) ใน Camp เก็บตัว นอกจากนั้น เธอก็ยังร่วมกับคุณแม่ในการทำ Catering Service อีกด้วย
อาหารทุก Menu ของ Food Philosophy จึงต้องประกอบไปด้วย ความสะอาด, ความอร่อย และความคุ้มค่า...อีกทั้ง เรายินดีบริการลูกค้าทุกท่าน ทั้งแบบ Sit down Dining และ Take Away
และถึงแม้จะ Take Away กลับบ้าน, ก็แค่อุ่นด้วย Microwave ก็อร่อยได้เต็มเปี่ยมเหมือนนั่งทานที่ร้าน เพราะ Chef Bella รังสรรค์ทุก Menu มาเป็นอย่างดี เพื่อให้ตอบโจทย์ Life Style ของ Urban Life ที่เน้นความสะดวก (แต่ก็อยากได้อร่อยและสะอาดด้วยเช่นกัน)
…
จบการโฆษณาเรื่องร้าน...ก็มาว่ากันต่อถึงเรื่องการทำความฝันให้เป็นจริง
ความฝันนั้นเป็นเรื่องสวยงาม...แต่ทว่า มันก็แฝงความน่ากลัวอยู่
ความน่ากลัวที่ว่า ก็คือ มันทำให้เรามัวแต่ฝันอยู่นั่นเอง, ทำให้เราหลงอยู่กับความไม่จริง อยู่กับมโน
ทางเดียวที่เราจะสลายมโนเหล่านี้ได้ มีแต่การลงมือทำให้เป็นความจริง...ทั้งที่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ความฝันนั้นจะสำเร็จหรือไม่
แต่ถึงแม้ว่า มันจะจบลงด้วยความล้มเหลว...แต่เราก็หาใช่จะเป็น “ผู้แพ้”
…นั่นเพราะ เราชนะตั้งแต่ตอนที่ “กล้าลงมือทำ” แล้ว นั่นเองครับ...
#FoodPhilosophy
Comments
Post a Comment