Post#4-182:
ใครที่ทำมาค้าขายอยู่ จะรู้ดีว่า มันไม่ง่ายเลย ที่จะชักชวนให้ลูกค้าหันมาสนใจซื้อสินค้าจากเราให้ได้
อย่าว่าแต่ซื้อเลยครับ...เอาแค่ก้าวแรกให้ลูกค้ายอมเปิดโอกาสให้เราได้พูดแนะนำสินค้า ก็ไม่ง่ายเสียแล้ว
ดังนั้น ทุกๆ หน้าร้านจึงให้ความสำคัญกับ "พนักงานขาย" ที่ขายเก่งๆ เป็นอย่างมาก...
เรียกว่าแทบจะประคบประหงมให้อยู่กับเราไปนานๆ เลย...ว่าอย่างนั้น
ข่าวร้ายก็คือ พนักงานขายที่เก่งกาจนั้น มีอยู่น้อย และถ้าเผลอเป็นต้องโดนแย่งตัว
แต่ข่าวดีก็คือ พนักงานขายที่เก่งกาจนั้น เป็นเรื่องที่ "ฝึก" กันได้
...
จะว่าไป ตำราที่ว่าด้วยการฝึกคนให้เป็นพนักงานขายที่เก่งกาจนั้น มีอยู่เป็นพันเป็นหมื่นปก อ่านกันไม่หวาดไม่ไหว
ผมเองก็มีสูตรสำเร็จในการฝึกพนักงานขายของผม...สรุปเป็นคาถา 4 คำสั้นๆ ได้ว่า
"เชื่อมั่น ขวนขวาย ขยันขาย ขยายผล"
...
ว่าแล้วก็ลองมาขยายความกันสักหน่อยครับ...
จะเป็นพนักงานขายได้ ต้องเชื่อมั่น...ซึ่งหมายรวมไปถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง และความเชื่อมั่นในตัวสินค้า
ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเรามีดี ขายของเป็น และสินค้าที่เราจะขายก็มีข้อดีมากพอ...รับรองว่า ไม่มีทางที่จะขายได้ เพราะเราถอดใจยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้นเสียแล้ว นั่นเอง
นอกจากต้องเชื่อมั่นแล้ว...เรายังต้องรู้จักขวนขวาย หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของเรา, สินค้าของคู่แข่ง รวมไปถึงสินค้าทดแทนด้วย
เมื่อรู้เขารู้เรา...เราจึงจะสามารถขายสินค้าด้วยการเน้นจุดแข็งของเรา และสามารถยกจุดอ่อนของคู่แข่ง มาสื่อสารกับลูกค้าได้
...
ข้อต่อมา ก็ต้องรู้จักขยันขาย ไม่ใช่ยืนทำหน้าเป็นหมาป่วย ยืนซังกะตายอยู่หน้าร้าน รอให้ลูกค้าเข้ามาหา
ถ้าไม่รู้จักเข้าหาลูกค้า มัวแต่รอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง...ก็เท่ากับว่า เราเป็นพวกไม่รู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเอง ซึ่งแปลว่า เจริญยาก
ที่สำคัญต้องขวนขวายในการสังเกตสังกาลูกค้าอีกด้วย...
เราวิเคราะห์ลูกค้าถูกมั๊ยหนอ ว่าลูกค้าบุคลิกแบบนี้ ลักษณะแบบนี้...เราจะต้องเลือกวิธีเข้าหายังไง? โน้มน้าวแบบไหน? ปิดการขายด้วยกลไกอะไร?
...
และสุดท้าย คือต้องรู้จักขยายผล
ครั้งนี้ขายไม่ได้ อย่าพึ่งด่วนตัดลูกค้าออกไปจากชีวิต...หมายความว่า แม้วันนี้ลูกค้าจะไม่ซื้อ ก็ต้องพยายามให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
ถ้าเราปิดการสนทนาได้ดี...ครั้งต่อไป ลูกค้าอาจจะซื้อ หรือบอกต่อให้คนอื่นๆ มาซื้อ
ไม่ใช่ลูกค้าไม่ซื้อ ก็สะบัดบ๊อบใส่...แบบนี้ เท่ากับเราปิดโอกาสทางการขายไปตลอดกาล
...
แม้ว่าผมจะไม่อาจรับรองได้ ว่าคาถานี้จะได้ผล 100%...เพราะขึ้นอยู่กับหลายเหตุ-ปัจจัย ที่หลากหลาย
แต่ถ้าใครลองคิดตามและฝึกฝนดู...อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง "พนักงานขาย" กับ "นักขาย" ได้บ้าง
...ขอให้สนุกกับการขายและการฝึกให้พนักงานของเราเป็น "นักขาย" นะครับ...
#พนักงานขายเป็นเรื่องของหน้าที่ #นักขายเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ #มุ่งมั่นขายต่างจากสักแต่ขาย #อาชีพทำงานขายต่างจากทำงานขายเป็นอาชีพ
ใครที่ทำมาค้าขายอยู่ จะรู้ดีว่า มันไม่ง่ายเลย ที่จะชักชวนให้ลูกค้าหันมาสนใจซื้อสินค้าจากเราให้ได้
อย่าว่าแต่ซื้อเลยครับ...เอาแค่ก้าวแรกให้ลูกค้ายอมเปิดโอกาสให้เราได้พูดแนะนำสินค้า ก็ไม่ง่ายเสียแล้ว
ดังนั้น ทุกๆ หน้าร้านจึงให้ความสำคัญกับ "พนักงานขาย" ที่ขายเก่งๆ เป็นอย่างมาก...
เรียกว่าแทบจะประคบประหงมให้อยู่กับเราไปนานๆ เลย...ว่าอย่างนั้น
ข่าวร้ายก็คือ พนักงานขายที่เก่งกาจนั้น มีอยู่น้อย และถ้าเผลอเป็นต้องโดนแย่งตัว
แต่ข่าวดีก็คือ พนักงานขายที่เก่งกาจนั้น เป็นเรื่องที่ "ฝึก" กันได้
...
จะว่าไป ตำราที่ว่าด้วยการฝึกคนให้เป็นพนักงานขายที่เก่งกาจนั้น มีอยู่เป็นพันเป็นหมื่นปก อ่านกันไม่หวาดไม่ไหว
ผมเองก็มีสูตรสำเร็จในการฝึกพนักงานขายของผม...สรุปเป็นคาถา 4 คำสั้นๆ ได้ว่า
"เชื่อมั่น ขวนขวาย ขยันขาย ขยายผล"
...
ว่าแล้วก็ลองมาขยายความกันสักหน่อยครับ...
จะเป็นพนักงานขายได้ ต้องเชื่อมั่น...ซึ่งหมายรวมไปถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง และความเชื่อมั่นในตัวสินค้า
ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเรามีดี ขายของเป็น และสินค้าที่เราจะขายก็มีข้อดีมากพอ...รับรองว่า ไม่มีทางที่จะขายได้ เพราะเราถอดใจยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้นเสียแล้ว นั่นเอง
นอกจากต้องเชื่อมั่นแล้ว...เรายังต้องรู้จักขวนขวาย หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของเรา, สินค้าของคู่แข่ง รวมไปถึงสินค้าทดแทนด้วย
เมื่อรู้เขารู้เรา...เราจึงจะสามารถขายสินค้าด้วยการเน้นจุดแข็งของเรา และสามารถยกจุดอ่อนของคู่แข่ง มาสื่อสารกับลูกค้าได้
...
ข้อต่อมา ก็ต้องรู้จักขยันขาย ไม่ใช่ยืนทำหน้าเป็นหมาป่วย ยืนซังกะตายอยู่หน้าร้าน รอให้ลูกค้าเข้ามาหา
ถ้าไม่รู้จักเข้าหาลูกค้า มัวแต่รอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง...ก็เท่ากับว่า เราเป็นพวกไม่รู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเอง ซึ่งแปลว่า เจริญยาก
ที่สำคัญต้องขวนขวายในการสังเกตสังกาลูกค้าอีกด้วย...
เราวิเคราะห์ลูกค้าถูกมั๊ยหนอ ว่าลูกค้าบุคลิกแบบนี้ ลักษณะแบบนี้...เราจะต้องเลือกวิธีเข้าหายังไง? โน้มน้าวแบบไหน? ปิดการขายด้วยกลไกอะไร?
...
และสุดท้าย คือต้องรู้จักขยายผล
ครั้งนี้ขายไม่ได้ อย่าพึ่งด่วนตัดลูกค้าออกไปจากชีวิต...หมายความว่า แม้วันนี้ลูกค้าจะไม่ซื้อ ก็ต้องพยายามให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
ถ้าเราปิดการสนทนาได้ดี...ครั้งต่อไป ลูกค้าอาจจะซื้อ หรือบอกต่อให้คนอื่นๆ มาซื้อ
ไม่ใช่ลูกค้าไม่ซื้อ ก็สะบัดบ๊อบใส่...แบบนี้ เท่ากับเราปิดโอกาสทางการขายไปตลอดกาล
...
แม้ว่าผมจะไม่อาจรับรองได้ ว่าคาถานี้จะได้ผล 100%...เพราะขึ้นอยู่กับหลายเหตุ-ปัจจัย ที่หลากหลาย
แต่ถ้าใครลองคิดตามและฝึกฝนดู...อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง "พนักงานขาย" กับ "นักขาย" ได้บ้าง
...ขอให้สนุกกับการขายและการฝึกให้พนักงานของเราเป็น "นักขาย" นะครับ...
#พนักงานขายเป็นเรื่องของหน้าที่ #นักขายเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ #มุ่งมั่นขายต่างจากสักแต่ขาย #อาชีพทำงานขายต่างจากทำงานขายเป็นอาชีพ
Comments
Post a Comment