Post#4-180:
ผมเชื่อว่า คนเราย่อมมีเพลงในดวงใจกันทุกคน...บางคนก็อาจจะมีเพลงเดียว บางคนก็อาจจะมีหลายเพลงหน่อย
หลายๆ คนต้องเจอกับอุปสรรคมากมายที่ถาโถม ทดท้อกับชีวิต จนบางครั้งไม่อยากจะลืมตาขึ้นในวันรุ่งขึ้น
บางคนหนักหนาถึงขนาดที่อยู่ท่ามกลางผู้คน แต่กลับไม่รับรู้ถึงผู้คน...ด้วยเพราะความทุกข์มันเกาะกุมหัวใจไว้แน่นหนาเหลือเกิน
แต่หลายๆ คนก็ได้เพลงนี่แหละ...เป็นตัวดึงพวกเค้ากลับมาจากโลกแห่งความโศกเศร้า เรียกได้ว่า เพลงเป็นตัวจุดให้มีพลังและมีความหวังขึ้นมาใหม่
...
ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระราชนิพนธ์แปล จากบทประพันธ์ของ William Shakespeare ซึ่งกล่าวถึงความสำคัญของเพลงหรือดนตรี ไว้ว่า
ชนใดไม่มีดนตรีการ
ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ
เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤาอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก
มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก
ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้
เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ
คุ้นๆ บ้างมั๊ยครับ?
...
เล่ามาเสียยืดยาว เพียงเพื่อผมจะสรุปว่า...
หากว่าหันไปทางไหนก็ไม่มีใครอยู่ข้างๆ...อย่าพึ่งหมดหวังหรือทอดอาลัยไปเสียล่ะครับ
อย่างน้อยก็น่าจะยังมี "เพลง" หรือ "ดนตรี" ไว้คอยปลอบประโลมหัวใจ
...คงจะเป็นอย่างที่ "พี่จิก" ประภาส ชลศรานนท์ เคยว่าไว้ว่า "เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก"...
#เพลงเขียนคนดนตรีเขียนโลก #เพลงที่ดีเปรียบเหมือนเสียงจากฟ้า #ดนตรีที่ดีเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ #ดนตรีช่วยกล่อมวิญญาเพลงนั่นหนาจรรโลงหัวใจ
*ต้นฉบับของ Shakespeare ลองเข้าไปอ่านได้ที่
http://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=narnia&month=08-01-2006&group=1&gblog=15
ผมเชื่อว่า คนเราย่อมมีเพลงในดวงใจกันทุกคน...บางคนก็อาจจะมีเพลงเดียว บางคนก็อาจจะมีหลายเพลงหน่อย
หลายๆ คนต้องเจอกับอุปสรรคมากมายที่ถาโถม ทดท้อกับชีวิต จนบางครั้งไม่อยากจะลืมตาขึ้นในวันรุ่งขึ้น
บางคนหนักหนาถึงขนาดที่อยู่ท่ามกลางผู้คน แต่กลับไม่รับรู้ถึงผู้คน...ด้วยเพราะความทุกข์มันเกาะกุมหัวใจไว้แน่นหนาเหลือเกิน
แต่หลายๆ คนก็ได้เพลงนี่แหละ...เป็นตัวดึงพวกเค้ากลับมาจากโลกแห่งความโศกเศร้า เรียกได้ว่า เพลงเป็นตัวจุดให้มีพลังและมีความหวังขึ้นมาใหม่
...
ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระราชนิพนธ์แปล จากบทประพันธ์ของ William Shakespeare ซึ่งกล่าวถึงความสำคัญของเพลงหรือดนตรี ไว้ว่า
ชนใดไม่มีดนตรีการ
ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ
เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤาอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก
มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก
ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้
เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ
คุ้นๆ บ้างมั๊ยครับ?
...
เล่ามาเสียยืดยาว เพียงเพื่อผมจะสรุปว่า...
หากว่าหันไปทางไหนก็ไม่มีใครอยู่ข้างๆ...อย่าพึ่งหมดหวังหรือทอดอาลัยไปเสียล่ะครับ
อย่างน้อยก็น่าจะยังมี "เพลง" หรือ "ดนตรี" ไว้คอยปลอบประโลมหัวใจ
...คงจะเป็นอย่างที่ "พี่จิก" ประภาส ชลศรานนท์ เคยว่าไว้ว่า "เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก"...
#เพลงเขียนคนดนตรีเขียนโลก #เพลงที่ดีเปรียบเหมือนเสียงจากฟ้า #ดนตรีที่ดีเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ #ดนตรีช่วยกล่อมวิญญาเพลงนั่นหนาจรรโลงหัวใจ
*ต้นฉบับของ Shakespeare ลองเข้าไปอ่านได้ที่
http://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=narnia&month=08-01-2006&group=1&gblog=15
Comments
Post a Comment