Post#2-147:
ผมเคยเล่าถึงโสเครติสไว้ครั้งหนึ่งใน Post#139 ซึ่งเราคุยกันในเรื่องของการทำความเข้าใจก่อนจะถกประเด็น
ส่วนวันนี้ ผมนำเรื่อง "ตัวกรอง 3 ชั้น" ของโสเครติส มาฝากครับ เชื่อว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของเราๆ ท่านๆ บ้างไม่มากก็น้อย
ตัวกรอง 3 ชั้น ที่ว่านั้น จะเป็นตัวช่วยในการพิจารณาว่า เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนั้น เป็นเรื่องที่สมควรถ่ายทอดต่อไปยังคนอื่นหรือไม่
จะว่าไป ผมว่ามันเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมในการสกัดข่าวลือ รวมไปถึงช่วยให้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน
ตัวกรองที่ 1 ชื่อว่า "ความจริง" โสเครติสถามว่า เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่สมควรจะเล่าต่อ
ตัวกรองที่ 2 ชื่อว่า "ความดี" ซึ่งโสเครติสถามว่า เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่สมควรถ่ายทอด
ส่วนตัวกรองที่ 3 ชื่อว่า "ประโยชน์" หมายความว่า ถ้าเล่าหรือถ่ายทอดไปแล้ว ไม่ยังประโยชน์ใดๆ ขึ้นมา ก็อย่าเล่าเสียดีกว่า
แปลว่า ถ้าเรื่องที่เราจะถ่ายทอดต่อ ผ่านตัวกรอง 3 ชั้นไปได้ แปลว่าเป็นเรื่องอัน "ควรถ่ายทอด" ซึ่งผมขอสรุปให้จำง่ายๆ เลยคือ "จริงมั๊ยนี่-ดีมั๊ยหนอ-เป็นประโยชน์พอเปล่า" นั่นเอง
(* ใครที่อยากอ่านเรื่องเต็มๆ ค้นใน google ได้เลยครับ โดย search ด้วย "ตัวกรอง 3 ชั้น" หรือหากอยากเก็บเป็นเล่ม ก็ซื้อ "ด้วยรักบันดาล...นิทานสีขาว" โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา มาอ่านดูครับ)
...
ฝรั่งเองก็นำเรื่องตัวกรอง 3 ชั้นนี้ ไปลำดับความให้จำง่ายๆ และมี gimmick ในการจำ โดยเค้าสอนว่า..
Before you speak, THINK (ก่อนที่เราจะพูดอะไรนั้น, จงคิด)
T = is it True (มัน "จริง" หรือไม่)
H = is it Helpful (มัน "เป็นประโยชน์" หรือเปล่า)
I = is it Inspiring (มัน "สร้างแรงบันดาลใจ" มั๊ย)
N = is it Necessary (มัน "จำเป็น" หรือไม่)
K = is it Kind (มัน "เป็นเรื่องดี" หรือเปล่า)
...
ส่วนทางพุทธ ก็สอนเราเกี่ยวกับการพูดเช่นกัน ตามที่ปรากฏใน วจีกรรม 4 (ในกุศลกรรมบท 10) ซึ่งประกอบไปด้วย
เว้นจากการ พูดเท็จ
เว้นจากการ พูดส่อเสียด
เว้นจากการ พูดคำหยาบ
เว้นจากการ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
...
ใครชอบแนวคิดไหน ก็เลือกเอาตามจริตเลยครับ ^^
Comments
Post a Comment