Post#2-148:
ในการทำงานเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจนั้น บ่อยครั้งที่มีเจ้าของธุรกิจชวนให้ผมร่วมลงทุนด้วย...แต่มีเพียงไม่กี่ธุรกิจเท่านั้น ที่ผม ok
ไม่ใช่เพราะหยิ่งหรือว่าเล่นตัว หรือว่ารวยพอแล้ว หากแต่ผมมักจะพิจารณาว่า ผมมี Value Added เพียงพอที่จะเข้าไปร่วมทุนหรือไม่?
บางธุรกิจที่ผมขัดไม่ได้ ก็จำต้องไปร่วมลงขันกับเค้าด้วยเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งถ้าผมไม่ใช่คนที่ต้องไปลงแรงบริหาร ผมมักจะปล่อยให้หุ้นใหญ่เค้าว่าไป โดยผมไม่พยายามจะเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ยกเว้นจะโดนเรียกให้ไปร่วมประชุม
บางธุรกิจที่ผมเป็นผู้ริเริ่ม ส่วนมากผมจะยอมเป็นคนที่เหนื่อยที่สุด ค่าที่ว่าเมื่อเราเป็นผู้ริเริ่ม เราก็สมควรที่จะเป็นคนที่เข้าใจ Business Model ทั้งหมด และต้องสามารถกำหนดแผนงานต่างๆ ได้ดีกว่าหุ้นส่วนคนอื่นๆ
แนวทางที่ผมเลือกหุ้นส่วน ก็ยึดจากแนวทางที่ผมพิจารณาตัวเองเวลาจะไปร่วมงานกับคนอื่นๆ ก็คือ ใครก็ตามที่ผมจะเชิญมาร่วมงาน ผมจะมองว่าเค้ามี Value Added ตรงไหน?
...
โอกาสต่างๆ ที่วิ่งเข้ามาหานั้น บางอันเราต้องยิ้มและปล่อยให้มันวิ่งผ่านไป เพราะถ้าคว้ามันไว้แล้วไม่สามารถทำให้มันดีได้เท่ากับหรือดีกว่าความคาดหวังของตัวเราเองและหุ้นส่วน แล้วล่ะก็...
โอกาสนั้น ก็จะแปลสภาพไปเป็น "ภาระ" ทำให้เราถอยหลังมิได้ พอๆ กับมิอาจเดินหน้า
อย่าลืมว่าเราต้องรับผิดชอบความสำเร็จหรือล้มเหลวของ Partner ของเราด้วย...คิดไปถึงสมัยเรียน ก็ต้องเปรียบเปรยว่า มันเป็น "งานกลุ่ม" ไม่ใช่ "งานเดี่ยว" นะครับ
เราจะเลือกใครเข้ากลุ่ม หรือใครจะเลือกเราเข้ากลุ่มน่ะ ทั้งเราและเค้าก็จะพิจารณาว่า มี Value Added มั้ย ไม่ใช่เค้าเลือกเรามาหรือเราเลือกเค้ามาเป็น Added Burden ซะหน่อย
จริงมั๊ยครับ?
Comments
Post a Comment