Post#2-149:
ช่วงนี้ผมมีโอกาสได้พบกับ Investor ค่อนข้างบ่อย เนื่องจากอยู่ในช่วงขยายกิจการของบริษัทฯ
ขึ้นชื่อว่า Investor แล้ว เรียกว่าร้อยทั้งร้อย จะเป็นลัทธิ Result Oriented หรือมุ่งเน้นไปที่ Output (หรือผลลัพธ์) เป็นพิเศษ
นอกจาก Output จะต้องดีแล้ว เหล่า Investor จะไม่พลาดโอกาสในการเซาะไซร้ไล่เลียงถึง Process (หรือ กระบวนการ) และ Input (หรือ ปัจจัยนำเข้า) ต่างๆ อีกด้วย
หมายความว่า ถ้าผมนำเสนอเป้าหมาย รวมไปถึงแนวคิดและวิสัยทัศน์ให้เค้าสนใจได้ แปลว่า แผนงานของผมมีความน่าสนใจ และถ้าเค้าเห็นด้วยกับ Process ของเรา ก็แปลว่า เรามีโอกาสสูงที่จะทำงานนั้นได้ดี
แน่นอนว่า Input น่ะ เป็นสิ่งที่เราต้องการจากพวกเค้า ซึ่งอาจมาในรูปของทรัพยากรที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยมากก็หนีไม่พ้น คน, เงิน, เวลา หรือไม่ก็ Know-how อื่นๆ
แต่ถ้าเค้าคิดว่าแนวคิดหร่อแผนงานของเรายังไม่น่าสนใจ จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ อย่างน้อยผมก็จะได้ฟัง comment สำหรับนำมาปรับปรุงอยู่ดี
ยิ่งเจอ Investor ที่เขี้ยวลากดิน ผมยิ่งรู้สึกว่า ผมกำลังจะได้เจอ "จอมยุทธ์" ที่เราจะได้ประมือแลกเปลี่ยนวิชายุทธ์กัน
การประมือแบบนี้สนุก เพราะเมื่อสิ้นสุดการประมือ ไม่มีใครแพ้ มีแต่ผู้ชนะ เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะได้มุมมองใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ได้ขัดเกลาการนำเสนอแผนงาน และทึ่สำคัญ...ได้ขยาย network ให้กว้างขึ้น
ดังนั้น ใครที่กลัวหรือกังวลในการนำเสนอแผนงานหรือผลงานของตัวเอง เพราะไม่ชอบฟังคำตำหนิ หรือขี้เกียจจะชี้แจงหรือตอบคำถาม ผมจึงขออนุญาตนำเสนอมุมมองข้างต้นให้ลองไปพิจารณาครับ...
สำหรับผม...ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง แต่การได้พบกับ Investor ถือเป็น "กำไร" จริงๆ ครับ
Comments
Post a Comment