Post#2-158:
บางครั้งเคยสงสัยบ้างมั๊ยครับ ว่าทำไมนายถึงเรียกเราเข้าไปฟัง lecture อยู่บ่อยๆ
จากมุมมองของผมสมัยยังเป็นละอ่อน จะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ ไม่เข้าใจว่านายจะต้องบ่นอะไรเราเยอะแยะ จะให้ทำอะไรก็บอกมาเลยสิ
หรืออย่างเวลาทำอะไรผิดนิดผิดหน่อย ก็จะไม่เข้าใจว่า ทำไมนายเลือกที่จะ lecture เราอยู่คนเดียว ทีคนอื่นที่ทำผิดเหมือนเราไม่เห็นนายจะว่าอะไรเลย
ต่อเมื่อวันเวลาผ่านไปกว่า 10 ปี มีอดีตลูกน้องและลูกน้องมาแล้วนับได้หลายพันชีวิต ผมพบว่า ผมเองก็ไม่ได้ lecture ลูกน้องทุกๆ คนอย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับท่านอื่นๆ มีเกณฑ์ยังไงในการเรียกลูกน้องบางคนมา lecture นั้น ผมไม่อาจทราบได้ แต่ผมถือเกณฑ์อยู่ 3 เรื่อง
หนึ่ง...เรื่องที่ผมเรียกเตือนนั้น เป็นเพราะว่าลูกน้องคนนั้นทำผิดเรื่องเดิมหรือคล้ายเดิมอยู่บ่อยๆ หากปล่อยไปอาจจะกลายเป็นความเคยชินที่ยากเกินกว่าจะแก้
สอง...ลูกน้องที่ผมเรียกเตือนนั้น ผมพิจารณาแล้วว่า น่าจะยังอยู่ในบัว 4 เหล่า เรียกว่ายังพอชี้แนะหรือสั่งสอนได้ และที่สำคัญเป็นคนที่ผมรู้สึกว่า "เป็นคนดี" และผมมองเห็น "ศักยภาพ" บางอย่างที่น่าจะดึงออกมาได้
สาม...ลูกน้องคนนั้นให้ความเคารพและนับถือผมอยู่บ้าง เพราะหากเค้าไม่มีศรัทธาในตัวเรา บอกอะไร หรือเตือนอะไร เค้าก็จะตีความว่า เราเรียกเค้าไปด่าโดยไม่มีเหตุผล
...
สำหรับลูกน้องทั้งหลาย แทนที่จะมัวนึกต่อว่านายอยู่ในใจ ลองหันมาคิดอีกมุมนึงดูบ้างมั๊ยครับ?
หนึ่ง...ถ้านายไม่รักและปรารถนาดี จะเรียกเรามา lecture มั๊ย? ถ้างั้นนายก็ปล่อยให้เราทำผิดๆ แล้วก็เชิญเราออกไปทำอย่างอื่นก็ได้ จะมานั่งบ่นร่ำพร่ำสอนเราเพื่ออะไร?
สอง...ต้องพิจารณาตัวเราเองด้วย มองตัวเราจากมุมของนายบ้าง ไม่ใช่มองตัวเองจากมุมตัวเองอย่างเดียว แล้วก็มานั่งบ่นนายว่า ไม่เข้าใจลูกน้องเอาซะเลย
ถ้าเป็นเรื่องที่นายเข้าใจเราไม่ถูกต้อง ก็ต้องหาจังหวะและโอกาสในการชี้แจง อาจเล่า truth ให้นายฟังได้ แต่เล่า fact น่ะดีกว่าแน่ๆ
(หมายเหตุไว้หน่อยว่า truth คือความจริงที่เรารู้แต่คนอื่นไม่รู้ อาจเป็นจริงได้เฉพาะเมื่อมองในมุมของเราเท่านั้น ส่วน fact คือความจริงที่พิสูจน์ได้ ไม่ว่าจะมองจากมุมของใครก็ตาม
เรียกว่า ทุก fact เป็น truth แต่ไม่ใช่ทุก truth เป็น fact...)
ขอให้นายและลูกน้องทุกคู่ อยู่กันด้วยความรักและเข้าใจครับ...
Comments
Post a Comment