Post#2-174:
วันนี้ขออัญเชิญบทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 มาเปิด post นะครับ
"อันว่าความกรุณาปราณี
จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน"
จำได้ว่า ผมเคยชวนคุยไว้นานมากแล้ว ว่าการเป็นผู้ให้นั้นถือเป็นความสุขอย่างยิ่ง แต่จะสุขที่สุดก็ต้องเป็นการให้แบบอย่าไปคาดหวังผลตอบแทน (Post#57)
เวลาทำอะไรให้ใคร จึงต้องเตือนตัวเองให้มีความสุข ณ ขณะที่ให้นั้นเลย อย่ารอให้เค้ามาตอบแทนแล้วค่อยมีความสุข...มิฉะนั้น การให้ของเราจะกลายเป็นการสร้างทุกข์แทนที่จะสุข
การให้ของเราจะเป็นสุขได้ ก็ต้องเป็นเพราะเราสุขใจที่ได้ช่วย, ช่วยเพราะอยากช่วย ไม่ได้ช่วยเพราะอยากได้
เมื่อช่วยเพราะอยากช่วย ใจจึงเป็นสุขที่ได้ให้ความช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน จึงเป็นบุญสำหรับผู้ให้ และเป็นแรงเกื้อหนุนสำหรับผู้รับ
ย้อนกลับไปที่บทพระราชนิพนธ์ข้างต้นสักนิดนะครับ...
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ...ขึ้นชื่อว่าน้ำฝน ก็ถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่เมื่อตกต้องโดนตัว ก็มักจะก่อให้เกิดความชื่นฉ่ำ ชุ่มชื้น
กระบวนการก่อให้เกิดฝนนั้น ต้องมีปัจจัยในการก่อตัวไม่น้อย จากไอน้ำจนเป็นเม็ดฝน เปรียบเสมือนผู้ที่จะมีความกรุณา ที่จะต้องถึงพร้อมด้วยเมตตาบารมี, ทานบารมี และศีลบารมี
หากเมตตาเป็นไอน้ำ กรุณาก็เป็นเม็ดฝน ปราศจากไอน้ำ ย่อมไม่เกิดเม็ดฝน
จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน...การเป็นผู้ให้จึงเป็นความสูงส่ง ที่ส่งลงมายังผู้ที่รอความช่วยเหลือเบื้องล่าง
เปรียบเสมือนชาวนาที่รอหยาดฝนมาพลิกฟื้นปฐพีที่แตกระแหงให้กลับมาเป็นผืนดินที่พร้อมแก่การเพาะปลูก พร้อมสำหรับการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้หยั่งรากและเติบโตต่อไป
...
ปกติผมชอบที่จะเป็นผู้ให้...แม้เป็นผู้ไม่ได้ถึงพร้อมด้วยกำลังทรัพย์ แต่ก็ไม่เคยจืดจางกำลังสมองและกำลังใจให้กับคนรอบข้าง...แน่นอนว่าตอนให้ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย สุขใจที่ได้ให้ที่ได้ช่วย แค่นั้นจริงๆ
แต่เมื่อถึงคราวที่ผมต้องเป็นผู้รับบ้าง...
รู้ซึ้งเลยครับว่า น้ำฝนแห่งความกรุณานั้น...ฉ่ำเย็นชุบวิญญาณได้อย่างเหลือเชื่อ
ปิติของผมบังเกิด น้ำตารื้นด้วยความตื้นตัน จากการที่ได้รู้ว่า ยังมีใครคนหนึ่งบนโลก ที่ให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่แก่คนอื่นที่ไม่ใช่เลือดเนื้อ ไม่ใช่ญาติ เป็นแค่คนรู้จักคนหนึ่ง...เป็นการให้โดยไม่ได้หวังสิ่งใดนอกจากความสุขใจที่ได้ช่วย อย่างแท้จริง
แม้ไม่อาจเอ่ยนามท่านได้ในที่นี้...แต่ผมก็ขออนุญาตกราบคารวะ "เมตตาบารมี" อันยิ่งใหญ่ และจะน้อมจารึกบุญคุณของท่าน ด้วยจิตกตัญญูที่ผมมีครับ
และแม้จะรู้ว่ายากที่จะมีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณท่าน...ก็จะขอนำ "หนี้" บุญคุณครั้งนี้ ไปเป็นฐานกำลังของผมในการต่อยอดความดีของท่าน ไปช่วยคนอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไปครับ
Pay it forward...for you, my benefactor ^^
Comments
Post a Comment