Skip to main content

Post#2-173: ศุกร์สิ้นเดือน

Post#2-173:
ทำไมวันศุกร์สิ้นเดือนรถถึงติด?

ถือเป็นคำถามโลกแตกคำถามหนึ่ง ซึ่งผมไม่เคยตอบได้ ถือเป็นคำถามเปิดประเด็นชวนคุยและคาดได้เลยว่า คำตอบจะมีมากกว่าหนึ่งอย่างแน่นอน

เท่าที่สอบถามน้องๆ เพื่อนๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน พบว่า วันศุกร์สิ้นเดือนถือเป็น "วันชาติ" ของชาวเผ่าผู้มีรายได้ประจำ...เป็นวันที่สารพัดเหตุผลมารวมกัน แล้วก่อให้เกิด Motor Show บนท้องถนน

ผมยังไม่สิ้นสงสัย ว่าที่น้องๆ ว่ามาจะจริงมั๊ย ว่าแล้วผมก็เข้าไป search ใน google และพบว่า ที่วันศุกร์รถติดมากๆ โดยเฉพาะศุกร์สิ้นเดือนน่ะ เป็นเพราะ...

ส่วนหนึ่ง เพราะอัดอั้นกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมายาวนาน เลยขอปลดปล่อยด้วยการกิน...ดื่ม...เที่ยว  ให้มีความสุขสักวัน เมื่อรู้ว่าเย็นจะไปโฉบฉายต่อ ก็เลยพากันขับรถออกมา

ส่วนหนึ่ง ถือวันนี้เป็นวันจ่ายของเข้าบ้าน รวมไปถึงจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่านั่น นู่น นี่ ค่าจิปาถะ บางคนก็ต้องจ่ายหนี้ด้วย (และแน่นอนว่าจะต้องไม่ลืมซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาตุนเผื่อช่วงปลายเดือน) เมื่อต้องจับจ่ายเยอะ ก็เลยต้องขับรถออกมาด้วยไง (เรียก Taxi ได้ที่ไหนล่ะ ก็รู้ๆ กันอยู่)

อีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้มีภาระแบบคน 2 กลุ่มแรก แต่ก็นิยมออกสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในวันศุกร์เป็นปกติ (เพราะรุ่งขึ้นตื่นสายได้) พอออกมาสังสรรค์กันมากๆ เข้า ที่จอดรถไม่พอ ก็จอดข้างถนนไปเลย เมื่อช่องจราจรลดลง รถก็ติดเพิ่ม ยิ่งดึกยิ่งติด

และอีกกลุ่มใหญ่ๆ คือมีภูมิลำเนาอยู่แถบชานเมืองหรือจังหวัดใกล้เคียง วันธรรมดาใช้ชีวิตที่คอนโดฯ หรือหอพัก จอดรถไว้งั้น แล้วนั่ง BTS หรือ MRT เอา และแน่นอนว่า จะเอารถออกมาใช้ เพื่อขับกลับบ้านทุกศุกร์เย็น

สุดท้าย...เกิดจากกลุ่มคนที่หงุดหงิดเพราะรถติด ก็เลยขับรถแบบเห็นแก่ตัว แทรกบ้าง แซงบ้าง ปาดบ้าง ซึ่งล้วนนำมาซึ่งอุบัติเหตุ เป็นการซ้ำเติมให้ปัญหารถติดมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ก็ประมาณนี้แหละครับ สารพัดเหตุผลที่ผมพอจะประมวลมาได้...ใครมีเหตุผลอื่น ก็มาแชร์กันนะครับ ถือซะว่าคุยกันฆ่าเวลารถติดครับ

ขอให้สุขสันต์กับค่ำคืนของวันศุกร์สิ้นเดือนนะครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...