Skip to main content

Post#3-247: Show life that you have thousand reasons to smile!

Post#3-247:
หลายวันก่อน มีลูกน้องที่ผมรักมากคนหนึ่ง มาปรึกษาปัญหาชีวิตส่วนตัว...

สารภาพว่า พอผมรู้ปัญหาของเธอ...ผมก็ตกใจอยู่บ้าง เพราะไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้ จะมาเกิดกับเธอได้

สำหรับอายุของเธอ...ผมก็ยอมรับว่า ปัญหาที่เธอเผชิญอยู่นั้น เป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยเลย และผมเข้าใจได้เลยว่า เธอกำลังอยู่ในสภาวะกลัดกลุ้มและสับสนอย่างมาก

...

หลังจากปล่อยให้เธอระบายความกลัดกลุ้มอยู่พักใหญ่ๆ...ผมก็เริ่มต้นปลอบใจเธอให้คลายความเศร้าลงบ้าง

เพราะหากสติของเธอยังถูกเคลือบด้วยความเศร้าเพียงอย่างเดียว...ผมก็ไม่อาจจะปลุกสติเธอให้กลับมาคิดอย่างมีเหตุผลได้

เวลาเราอยู่ในมิจฉาอารมณ์ทั้งหลาย...สติเราจะทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพมากๆ...จนเป็นที่มาของการตัดสินใจทำอะไร "โง่ๆ" นั่นแหละครับ

โชคดีที่โดยพื้นฐาน เธอเป็นเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงอยู่แล้ว...ดังนั้น การมาระบายให้ผมฟัง ก็เหมือนการบรรเทาความอัดอั้นในใจเสียมากกว่า

...

ยังไงก็ตาม เมื่อเวลาที่ร่างกายและจิตใจเกิดล้า...อารมณ์มิจฉาก็จะเข้าครองสติได้โดยง่าย

ผมจึงได้เตือนสติเธอ ด้วยการส่งข้อความต่อไปนี้ไปให้...

"When life gives you a hundred reasons to cry, show life that you have  thousand reasons to smile."

แปลว่า "เมื่อชีวิตมอบเหตุผลร้อยแปดประการที่อาจทำให้คุณฟูมฟาย, ก็จงแสดงให้ชีวิตของคุณรู้ว่า คุณมีเหตุผลพันประการที่จะทำให้คุณยังยิ้มได้ต่อไป"

...

ใครก็ตามที่กำลังเจออุปสรรคในชีวิต คุณจะร้องไห้ก็ได้ครับ...แต่ขอให้ร้องไห้อย่างมีสติ...อย่าลืมว่า คุณยังต้องมีพรุ่งนี้ให้สู้ต่อไป

คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่รักตัวเอง...แต่จงอย่าลืมว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามอีกหลายชีวิตข้างๆ คุณ ไม่ให้โศกเศร้า หากว่าคุณตัดสินใจอะไร "โง่ๆ"

...และไม่ว่าวันนี้คุณจะโศกเศร้าหรือท้อแท้เพียงใด...คุณต้องรู้ว่า คุณเปลี่ยนอดีตไม่ได้

...แต่คุณอาจเปลี่ยนอนาคตได้...หากคุณไม่มัวแต่สมเพชตัวเอง, คุณต้องยอมรับ และก้าวต่อไปเท่านั้นครับ...

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...