Post#3-265:
ผมมาภูเก็ต Trip นี้ เพื่อวัตถุประสงค์หลักในการมาเป็น Consultant ให้กับองค์กรแห่งหนึ่ง...เจ้าของเป็นนักธุรกิจไฟแรง (สมมติชื่อ พี่ M นะครับ) ที่มี passion ในการทำนั่น นู่น นี่ ตลอดเวลา
จะว่าไป ผมเข้าใจพี่ M ดีมาก...เพราะผมก็เป็นพวกซนชอบคิดและทำนั่น นู่น นี่ อยู่ตลอดเวลา เช่นกัน ^^
คราวนี้มันต่างกันตรงที่ ผมคิดหลายเรื่องแต่ไม่ได้ทำทุกเรื่อง แต่พี่ M นั้น คิดหลายเรื่องและทำทุกเรื่องที่คิด -"-
...
สมัยผมยังเป็นพนักงานตัวน้อยๆ ก็มักจะแอบงงอยู่บ่อยๆ ว่า เจ้านายจะคิดอะไรใหม่ๆ กันหนักกันหนา...แค่นี้ก็ทำงานไม่ทันแล้ว
จนมาเป็นเจ้านายและเจ้าของกิจการ...จึงเข้าใจได้ถ่องแท้ล่ะครับ...
ว่าการที่อยู่เฉยๆ ปล่อยอะไรเรื่อยเฉื่อยไปวันๆ พอใจกับวันนี้ โดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจในวันพรุ่งนี้ นั้น เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้
ดังนั้นแล้ว เจ้านายหรือเจ้าของกิจการ จึงจำต้องมีทางหนีทีไล่ไว้เสมอ หรือที่เราเรียกกันว่า Contingency Plan นั่นไงครับ
...
หากเราจำเป็นต้องตรวจสอบว่า ธุรกิจที่กำลังทำอยู่ อยู่ในสถานการณ์ใด และหนทางไปต่อยังดีอยู่หรือไม่...ก็เป็นการถูกต้อง ที่เราก็จำต้องรู้ทิศทางชีวิตตัวเองเช่นกัน
จริงอยู่ ที่เราควรจะพอใจกับปัจจุบัน...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะละเลยไม่รู้ไม่สน ว่าชีวิตกำลังจะมุ่งไปในทางใด ก็ได้
...เราจึงต้อง "ตระหนัก" ถึงหนทางข้างหน้าไว้บ้าง เพื่อให้วางเข็มชีวิตได้ถูก ไม่ใช่ "ตระหนก" มัวแต่มองหาหนทางข้างหน้า จนลืมใส่ใจกับตำแหน่งปัจจุบัน...
ผมมาภูเก็ต Trip นี้ เพื่อวัตถุประสงค์หลักในการมาเป็น Consultant ให้กับองค์กรแห่งหนึ่ง...เจ้าของเป็นนักธุรกิจไฟแรง (สมมติชื่อ พี่ M นะครับ) ที่มี passion ในการทำนั่น นู่น นี่ ตลอดเวลา
จะว่าไป ผมเข้าใจพี่ M ดีมาก...เพราะผมก็เป็นพวกซนชอบคิดและทำนั่น นู่น นี่ อยู่ตลอดเวลา เช่นกัน ^^
คราวนี้มันต่างกันตรงที่ ผมคิดหลายเรื่องแต่ไม่ได้ทำทุกเรื่อง แต่พี่ M นั้น คิดหลายเรื่องและทำทุกเรื่องที่คิด -"-
...
สมัยผมยังเป็นพนักงานตัวน้อยๆ ก็มักจะแอบงงอยู่บ่อยๆ ว่า เจ้านายจะคิดอะไรใหม่ๆ กันหนักกันหนา...แค่นี้ก็ทำงานไม่ทันแล้ว
จนมาเป็นเจ้านายและเจ้าของกิจการ...จึงเข้าใจได้ถ่องแท้ล่ะครับ...
ว่าการที่อยู่เฉยๆ ปล่อยอะไรเรื่อยเฉื่อยไปวันๆ พอใจกับวันนี้ โดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจในวันพรุ่งนี้ นั้น เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้
ดังนั้นแล้ว เจ้านายหรือเจ้าของกิจการ จึงจำต้องมีทางหนีทีไล่ไว้เสมอ หรือที่เราเรียกกันว่า Contingency Plan นั่นไงครับ
...
หากเราจำเป็นต้องตรวจสอบว่า ธุรกิจที่กำลังทำอยู่ อยู่ในสถานการณ์ใด และหนทางไปต่อยังดีอยู่หรือไม่...ก็เป็นการถูกต้อง ที่เราก็จำต้องรู้ทิศทางชีวิตตัวเองเช่นกัน
จริงอยู่ ที่เราควรจะพอใจกับปัจจุบัน...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะละเลยไม่รู้ไม่สน ว่าชีวิตกำลังจะมุ่งไปในทางใด ก็ได้
...เราจึงต้อง "ตระหนัก" ถึงหนทางข้างหน้าไว้บ้าง เพื่อให้วางเข็มชีวิตได้ถูก ไม่ใช่ "ตระหนก" มัวแต่มองหาหนทางข้างหน้า จนลืมใส่ใจกับตำแหน่งปัจจุบัน...
Comments
Post a Comment