Post#3-313:
ค่ำนี้ ผมมีนัด Dinner กับเพื่อนต่างชาติที่กำลังทำ project ร่วมกันอยู่
มันเป็นเรื่องง่ายที่คิดจะเริ่มทำ project อะไรสักอย่าง...แต่มันเป็นเรื่องยากสุดๆ ที่จะทำให้ project ที่ว่า กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริงๆ
พูดให้ง่ายเข้าก็ต้องว่า...แค่ฝันนั้นน่ะง่าย แต่จะเริ่มต้นลงมือทำน่ะ ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย
...
การเริ่มต้น project ใหม่ๆ นั้น...ความจริงก็ไม่ค่อยต่างจากการบังคับให้เราลุกจากที่นอนในตอนเช้า
จำอารมณ์ตอนลืมตาตื่นตอนเช้า แล้วยังงัวเงียๆ...อยากจะนอนแช่อยู่อย่างนั้น ไม่อยากลุกไปทำงาน ได้มั๊ยครับ?
อารมณ์แบบนี้นั่นแหละครับ คืออารมณ์เดียวกับตอนที่จะเริ่มต้น project อะไรสักอย่างที่ว่า
...
เมื่อบังคับตัวเองให้ลุกจากที่นอนได้...ก็คือการเริ่มต้น project...และเมื่อลุกขึ้นจากที่นอนได้ ก็แปลว่า เราผ่านช่วงที่ยากที่สุดช่วงหนึ่งมาได้แล้ว
ได้สังเกตตัวเองบ้างมั๊ยครับ...ว่าเราจะพร้อมสำหรับวันใหม่จริงๆ ก็ต่อเมื่อน้ำซู่แรกจากฝักบัวเริ่มรดหัวเรานั่นเอง...
ทำ project ก็คล้ายแบบนี้ คือเมื่อผ่านจุดๆ หนึ่งไปได้ ก็แทบไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะ project มันจะคืบหน้าไปได้แน่ๆ
สำคัญก็แต่ว่า เราหาแรงจูงใจที่จะทำให้ลุกจากที่นอนและรีบวิ่งไปที่ฝักบัวได้มั๊ยหนอ?
...
แต่ละคนย่อมมีวิธีดึงตัวเองให้ลุกขึ้นจากที่นอนไม่เหมือนกัน...แต่ละคนมีช่วงอ้อยอิ่งกว่าจะไปถึงฝักบัวไม่เท่ากัน
จำความรู้สึกที่รู้ว่า เช้านี้ต้องตื่นเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดได้มั๊ยล่ะครับ? แล้วจำความเร็วในการดีดตัวขึ้นจากที่นอนและอาบน้ำได้มั๊ยครับ?
นั่นล่ะครับ...ที่ผมนิยามมันว่า "แรงจูงใจ"
จำความรู้สึกที่รู้ว่า เช้านี้ตื่นสายมาก แล้วต้องประชุมแต่เช้าได้มั๊ยล่ะครับ? ถามอีกทีว่า จำความเร็วในการดีดตัวขึ้นจากที่นอนและวิ่งผ่านน้ำได้มั๊ยครับ?
แบบนี้ ผมนิยามมันว่า "แรงจำใจ"
...ผมคงไม่ถาม ว่าที่ผ่านมา เราตื่นขึ้นด้วยแรงแบบไหนมากกว่า แต่อยากถามว่า นับตั้งแต่พรุ่งนี้ เราอยากตื่นขึ้นด้วยแรงแบบไหนมากกว่ากันเอ่ย?...
ค่ำนี้ ผมมีนัด Dinner กับเพื่อนต่างชาติที่กำลังทำ project ร่วมกันอยู่
มันเป็นเรื่องง่ายที่คิดจะเริ่มทำ project อะไรสักอย่าง...แต่มันเป็นเรื่องยากสุดๆ ที่จะทำให้ project ที่ว่า กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริงๆ
พูดให้ง่ายเข้าก็ต้องว่า...แค่ฝันนั้นน่ะง่าย แต่จะเริ่มต้นลงมือทำน่ะ ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย
...
การเริ่มต้น project ใหม่ๆ นั้น...ความจริงก็ไม่ค่อยต่างจากการบังคับให้เราลุกจากที่นอนในตอนเช้า
จำอารมณ์ตอนลืมตาตื่นตอนเช้า แล้วยังงัวเงียๆ...อยากจะนอนแช่อยู่อย่างนั้น ไม่อยากลุกไปทำงาน ได้มั๊ยครับ?
อารมณ์แบบนี้นั่นแหละครับ คืออารมณ์เดียวกับตอนที่จะเริ่มต้น project อะไรสักอย่างที่ว่า
...
เมื่อบังคับตัวเองให้ลุกจากที่นอนได้...ก็คือการเริ่มต้น project...และเมื่อลุกขึ้นจากที่นอนได้ ก็แปลว่า เราผ่านช่วงที่ยากที่สุดช่วงหนึ่งมาได้แล้ว
ได้สังเกตตัวเองบ้างมั๊ยครับ...ว่าเราจะพร้อมสำหรับวันใหม่จริงๆ ก็ต่อเมื่อน้ำซู่แรกจากฝักบัวเริ่มรดหัวเรานั่นเอง...
ทำ project ก็คล้ายแบบนี้ คือเมื่อผ่านจุดๆ หนึ่งไปได้ ก็แทบไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะ project มันจะคืบหน้าไปได้แน่ๆ
สำคัญก็แต่ว่า เราหาแรงจูงใจที่จะทำให้ลุกจากที่นอนและรีบวิ่งไปที่ฝักบัวได้มั๊ยหนอ?
...
แต่ละคนย่อมมีวิธีดึงตัวเองให้ลุกขึ้นจากที่นอนไม่เหมือนกัน...แต่ละคนมีช่วงอ้อยอิ่งกว่าจะไปถึงฝักบัวไม่เท่ากัน
จำความรู้สึกที่รู้ว่า เช้านี้ต้องตื่นเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดได้มั๊ยล่ะครับ? แล้วจำความเร็วในการดีดตัวขึ้นจากที่นอนและอาบน้ำได้มั๊ยครับ?
นั่นล่ะครับ...ที่ผมนิยามมันว่า "แรงจูงใจ"
จำความรู้สึกที่รู้ว่า เช้านี้ตื่นสายมาก แล้วต้องประชุมแต่เช้าได้มั๊ยล่ะครับ? ถามอีกทีว่า จำความเร็วในการดีดตัวขึ้นจากที่นอนและวิ่งผ่านน้ำได้มั๊ยครับ?
แบบนี้ ผมนิยามมันว่า "แรงจำใจ"
...ผมคงไม่ถาม ว่าที่ผ่านมา เราตื่นขึ้นด้วยแรงแบบไหนมากกว่า แต่อยากถามว่า นับตั้งแต่พรุ่งนี้ เราอยากตื่นขึ้นด้วยแรงแบบไหนมากกว่ากันเอ่ย?...
Comments
Post a Comment