Post#3-327:
หลายเดือนก่อน ผมไปอ่านเจอประโยคที่นำมาตั้งเป็นหัวข้อ Post เข้าให้
อ่านแล้วก็คิดตามต่อยอดตามประสาคนซนๆ อย่างผม...
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ข้อสรุปที่ถูกใจตัวเองสักที ว่าการที่จะแปลงความรู้สึกเศร้าให้กลายเป็นเฉยๆ และจากเฉยๆ กลายเป็นขำได้น่ะ มันต้องอาศัยปัจจัยอะไรและเกี่ยวข้องกับระยะเวลาหรือเปล่าหนอ?
...
ผมจำได้ว่า ผมเองก็เคยมีช่วงเวลาที่อ่อนแอเมื่อครั้งที่ยังไม่เดียงสากับความรัก
จำได้ว่าเคยเสียน้ำตาไปหลายปี๊บ เมื่อคราวที่อกหักครั้งแรก...จำได้ว่าตอนนั้นเหมือนจะเป็นจะตาย แย่ขนาดที่ไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้ยังไง
แต่แล้วผมก็อยู่มาได้ถึงวันนี้แล้วนี่นา...นึกย้อนกลับไปถึงวันนั้นแล้ว ก็นึกไม่ออกว่า ทำไมตอนนั้นเสียใจหนักหนา
ทั้งที่วันนี้ กลับรู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันช่างจิ๊บจ๊อยเสียเหลือเกิน...และแน่นอนว่าตอนนี้ผมก็ไม่หลงเหลืออาการเศร้าเสียใจอยู่อีกแล้ว
แม้ไม่ถึงกับยิ้มและหัวเราะให้กับมันได้...แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ผมต้องขอบคุณที่มันทำให้ผมเติบโตขึ้น
นี่เป็นแค่ตัวอย่างของเรื่องเล็กๆ ของความรู้สึกของเราที่ผันแปรไปตามกาลเวลา...ก็อาจจะจริงที่ความหนักหนาของเรื่องยิ่งมาก ก็อาจต้องอาศัยเวลาในการเยียวยามากขึ้น
...
กลับไปที่คำถามข้างต้นที่ผมยังไม่ได้ตอบครับ...
นอกจากเวลาแล้ว...อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเปลี่ยนความรู้สึกจากร้ายเป็นดีได้กันหนอ?
ผมคิดว่า เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่มุมมองครับ...ว่าเราจะสามารถมองหาแง่มุมดีๆ จากเรื่องราวร้ายๆ ได้มั๊ย?
ถ้ามองหาแง่มุมนั้นเจอ...แปลว่า เราเริ่มจะก้าวข้ามความรู้สึกแย่ๆ มาได้บ้างแล้ว
และมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละปัจเจก ว่าจะหาแง่มุมที่ว่าเจอได้เร็วเท่าไหร่?
บางคนต้องอาศัยเวลา...แต่บางคนก็หักห้ามใจได้อย่างรวดเร็ว
แปลว่า ใครรู้สึกตัวก่อน ก็หายเศร้าก่อน, ใครรู้สึกตัวก่อน ก็เหลือเวลามีความสุขได้ยาวนานขึ้น
...ดังนั้น สักวันหนึ่งเราจะหัวเราะให้กับเรื่องที่เราเคยร้องไห้...หรือไม่...จะขึ้นอยู่กับใคร...ถ้าไม่ใช่ตัวเราเองครับ?...
หลายเดือนก่อน ผมไปอ่านเจอประโยคที่นำมาตั้งเป็นหัวข้อ Post เข้าให้
อ่านแล้วก็คิดตามต่อยอดตามประสาคนซนๆ อย่างผม...
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ข้อสรุปที่ถูกใจตัวเองสักที ว่าการที่จะแปลงความรู้สึกเศร้าให้กลายเป็นเฉยๆ และจากเฉยๆ กลายเป็นขำได้น่ะ มันต้องอาศัยปัจจัยอะไรและเกี่ยวข้องกับระยะเวลาหรือเปล่าหนอ?
...
ผมจำได้ว่า ผมเองก็เคยมีช่วงเวลาที่อ่อนแอเมื่อครั้งที่ยังไม่เดียงสากับความรัก
จำได้ว่าเคยเสียน้ำตาไปหลายปี๊บ เมื่อคราวที่อกหักครั้งแรก...จำได้ว่าตอนนั้นเหมือนจะเป็นจะตาย แย่ขนาดที่ไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้ยังไง
แต่แล้วผมก็อยู่มาได้ถึงวันนี้แล้วนี่นา...นึกย้อนกลับไปถึงวันนั้นแล้ว ก็นึกไม่ออกว่า ทำไมตอนนั้นเสียใจหนักหนา
ทั้งที่วันนี้ กลับรู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันช่างจิ๊บจ๊อยเสียเหลือเกิน...และแน่นอนว่าตอนนี้ผมก็ไม่หลงเหลืออาการเศร้าเสียใจอยู่อีกแล้ว
แม้ไม่ถึงกับยิ้มและหัวเราะให้กับมันได้...แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ผมต้องขอบคุณที่มันทำให้ผมเติบโตขึ้น
นี่เป็นแค่ตัวอย่างของเรื่องเล็กๆ ของความรู้สึกของเราที่ผันแปรไปตามกาลเวลา...ก็อาจจะจริงที่ความหนักหนาของเรื่องยิ่งมาก ก็อาจต้องอาศัยเวลาในการเยียวยามากขึ้น
...
กลับไปที่คำถามข้างต้นที่ผมยังไม่ได้ตอบครับ...
นอกจากเวลาแล้ว...อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเปลี่ยนความรู้สึกจากร้ายเป็นดีได้กันหนอ?
ผมคิดว่า เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่มุมมองครับ...ว่าเราจะสามารถมองหาแง่มุมดีๆ จากเรื่องราวร้ายๆ ได้มั๊ย?
ถ้ามองหาแง่มุมนั้นเจอ...แปลว่า เราเริ่มจะก้าวข้ามความรู้สึกแย่ๆ มาได้บ้างแล้ว
และมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละปัจเจก ว่าจะหาแง่มุมที่ว่าเจอได้เร็วเท่าไหร่?
บางคนต้องอาศัยเวลา...แต่บางคนก็หักห้ามใจได้อย่างรวดเร็ว
แปลว่า ใครรู้สึกตัวก่อน ก็หายเศร้าก่อน, ใครรู้สึกตัวก่อน ก็เหลือเวลามีความสุขได้ยาวนานขึ้น
...ดังนั้น สักวันหนึ่งเราจะหัวเราะให้กับเรื่องที่เราเคยร้องไห้...หรือไม่...จะขึ้นอยู่กับใคร...ถ้าไม่ใช่ตัวเราเองครับ?...
Comments
Post a Comment