Post#330:
เค้าว่ากันว่า มีอยู่ 4 สิ่ง ที่เงินมิอาจซื้อได้ นั่นคือ ความรัก, เวลา, ชีวิต และมิตรแท้
ผมเองก็ออกจะเห็นด้วยไม่น้อย...มาขยายความกันทีละตัวดีกว่าครับ
เงินซื้อความรักไม่ได้ จะซื้อได้ก็แค่ความหลงใหลและความใคร่
ส่วนที่พูดแซวๆ กันว่า "No Money, No Honey" นั้น เราคงรู้ๆ กันอยู่ ว่านี่ไม่ใช่ความรักแน่ๆ ใครก็ตามที่ใช้เงินซื้อความรัก...เมื่อหมดเงินก็หมดรัก
สำหรับเวลา ทุกวันเรามีเวลา 86,400 วินาที เท่าๆ กัน ใช้เวลาไปกับกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนนอนหลับ 28,800 วินาที (1/3), ทานอาหาร 10,800 วินาที (มื้อละ 1 ชั่วโมง), ชำระล้างร่างกายขับถ่ายของเสียอีก 3,600 วินาที
รวมๆ แล้ว เหลือเวลาอีก 43,200 วินาที (หรือ 12 ชั่วโมง) บางคนอาจจะเหลือมากกว่า ถ้าทำกิจวัตรต่างๆ ด้วยเวลาที่น้อยกว่า
ไม่ว่าเราจะใช้เวลาที่เหลือยังไง เมื่อหมดวันเวลาก็หมดไป ทดไปใช้หรือสะสมไว้ในกระปุกออมสินก็ไม่ได้ ดังนั้น 1 วินาที ที่มีความสุข ย่อมจะดีกว่า 1 วินาทีที่โกรธเกลียดแน่ๆ จริงมั๊ยครับ?
มาถึง "ชีวิต" กันบ้าง
แม้เราจะรู้ดี เงินมิอาจ "ซื้อ" ชีวิตได้ แม้อาจจะ "ยื้อ" ชีวิตได้บ้าง และสุดท้ายมนุษย์ทุกคนต้องเดินทางไปสู่ "ความตาย" เป็นของแน่
แต่แม้จะรู้ในข้อนั้น ก็แปลกที่เรามัวแต่วุ่นวายสะสมเงินทอง อันเป็น "โภคทรัพย์" ที่เรานำติดตัวไปไม่ได้ แทนที่เราจะใช้เวลาในการสั่งสมความดี อันเป็น "อริยทรัพย์" ซึ่งจะเป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่ติดตัวเราไปได้หลังจากโลกนี้ไป
อาจเพราะเรามีค่านิยมในการยกย่องคนที่ร่ำรวยใน "โภคทรัพย์" แต่มิได้ชื่นชมคนที่ร่ำรวยใน "อริยทรัพย์"
เราจึงควรใช้ชีวิตให้ "กว้างขวาง" มากกว่าที่จะ มุ่งใช้ชีวิตให้ "ยืนยาว" เพราะใช้ชีวิตกว้างขวาง เป็นการใช้ชีวิตเชิง "คุณภาพ" แต่ใช้ชีวิตให้ยืนยาว เป็นการใช้ชีวิตเชิง "ปริมาณ" (Post#36)
และสุดท้ายเพื่อนกินน่ะหาง่าย แต่เพื่อนตายน่ะหายากยิ่ง บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังไม่มี "มิตรแท้"
เมื่อยังเป็นเด็กน้อย ผมเคยฟังตลกคาเฟ่พูดขำๆ แต่ผมจำติดหูไว้ว่า "เมื่อมั่งมีหมู่มิตรมุ่งหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา เมื่อมากมีหมู่มิตรมุ่งมองมา เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง"
ดังนั้น จงจำไว้ว่า "ใคร" ที่ไม่เคยหันหลังให้ยามที่เราลำบากยากไร้ จงจำไว้ว่า "ใคร" ที่เห็นหัวเรายามที่เรามั่งมี
ผมไม่ได้ยุให้เกลียดชัง แต่เตือนให้เลือกคบเพื่อน มีน้อยๆ แต่มีคุณภาพ ดีกว่ามีมากๆ แต่เป็นเพื่อนแบบกากเดน
...
ข้อสรุปที่ผมเรียนรู้จากการคิดข้างต้น และจะพยายามทำต่อจากนี้ ก็คือ...
จงใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เพื่อการใช้ชีวิตอย่างกว้างขวาง มิใช่ยืนยาว, ใช้เวลาในการสร้างรักแท้ มิใช่หารักแท้, อยากมีมิตรแท้ เราจึงควรใช้เวลาในการประพฤติตนเป็นมิตรแท้ก่อน
เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ สาธุ (อิอิ ลืมบอกไปว่า วันนี้ เป็น "วันพระ" ครับ) ^^
เค้าว่ากันว่า มีอยู่ 4 สิ่ง ที่เงินมิอาจซื้อได้ นั่นคือ ความรัก, เวลา, ชีวิต และมิตรแท้
ผมเองก็ออกจะเห็นด้วยไม่น้อย...มาขยายความกันทีละตัวดีกว่าครับ
เงินซื้อความรักไม่ได้ จะซื้อได้ก็แค่ความหลงใหลและความใคร่
ส่วนที่พูดแซวๆ กันว่า "No Money, No Honey" นั้น เราคงรู้ๆ กันอยู่ ว่านี่ไม่ใช่ความรักแน่ๆ ใครก็ตามที่ใช้เงินซื้อความรัก...เมื่อหมดเงินก็หมดรัก
สำหรับเวลา ทุกวันเรามีเวลา 86,400 วินาที เท่าๆ กัน ใช้เวลาไปกับกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนนอนหลับ 28,800 วินาที (1/3), ทานอาหาร 10,800 วินาที (มื้อละ 1 ชั่วโมง), ชำระล้างร่างกายขับถ่ายของเสียอีก 3,600 วินาที
รวมๆ แล้ว เหลือเวลาอีก 43,200 วินาที (หรือ 12 ชั่วโมง) บางคนอาจจะเหลือมากกว่า ถ้าทำกิจวัตรต่างๆ ด้วยเวลาที่น้อยกว่า
ไม่ว่าเราจะใช้เวลาที่เหลือยังไง เมื่อหมดวันเวลาก็หมดไป ทดไปใช้หรือสะสมไว้ในกระปุกออมสินก็ไม่ได้ ดังนั้น 1 วินาที ที่มีความสุข ย่อมจะดีกว่า 1 วินาทีที่โกรธเกลียดแน่ๆ จริงมั๊ยครับ?
มาถึง "ชีวิต" กันบ้าง
แม้เราจะรู้ดี เงินมิอาจ "ซื้อ" ชีวิตได้ แม้อาจจะ "ยื้อ" ชีวิตได้บ้าง และสุดท้ายมนุษย์ทุกคนต้องเดินทางไปสู่ "ความตาย" เป็นของแน่
แต่แม้จะรู้ในข้อนั้น ก็แปลกที่เรามัวแต่วุ่นวายสะสมเงินทอง อันเป็น "โภคทรัพย์" ที่เรานำติดตัวไปไม่ได้ แทนที่เราจะใช้เวลาในการสั่งสมความดี อันเป็น "อริยทรัพย์" ซึ่งจะเป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่ติดตัวเราไปได้หลังจากโลกนี้ไป
อาจเพราะเรามีค่านิยมในการยกย่องคนที่ร่ำรวยใน "โภคทรัพย์" แต่มิได้ชื่นชมคนที่ร่ำรวยใน "อริยทรัพย์"
เราจึงควรใช้ชีวิตให้ "กว้างขวาง" มากกว่าที่จะ มุ่งใช้ชีวิตให้ "ยืนยาว" เพราะใช้ชีวิตกว้างขวาง เป็นการใช้ชีวิตเชิง "คุณภาพ" แต่ใช้ชีวิตให้ยืนยาว เป็นการใช้ชีวิตเชิง "ปริมาณ" (Post#36)
และสุดท้ายเพื่อนกินน่ะหาง่าย แต่เพื่อนตายน่ะหายากยิ่ง บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังไม่มี "มิตรแท้"
เมื่อยังเป็นเด็กน้อย ผมเคยฟังตลกคาเฟ่พูดขำๆ แต่ผมจำติดหูไว้ว่า "เมื่อมั่งมีหมู่มิตรมุ่งหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา เมื่อมากมีหมู่มิตรมุ่งมองมา เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง"
ดังนั้น จงจำไว้ว่า "ใคร" ที่ไม่เคยหันหลังให้ยามที่เราลำบากยากไร้ จงจำไว้ว่า "ใคร" ที่เห็นหัวเรายามที่เรามั่งมี
ผมไม่ได้ยุให้เกลียดชัง แต่เตือนให้เลือกคบเพื่อน มีน้อยๆ แต่มีคุณภาพ ดีกว่ามีมากๆ แต่เป็นเพื่อนแบบกากเดน
...
ข้อสรุปที่ผมเรียนรู้จากการคิดข้างต้น และจะพยายามทำต่อจากนี้ ก็คือ...
จงใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เพื่อการใช้ชีวิตอย่างกว้างขวาง มิใช่ยืนยาว, ใช้เวลาในการสร้างรักแท้ มิใช่หารักแท้, อยากมีมิตรแท้ เราจึงควรใช้เวลาในการประพฤติตนเป็นมิตรแท้ก่อน
เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ สาธุ (อิอิ ลืมบอกไปว่า วันนี้ เป็น "วันพระ" ครับ) ^^
Comments
Post a Comment