Post#356:
ช่วงเวลาที่เราเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก นับเป็นช่วงเวลาทดสอบใจเราโดยแท้
คนส่วนใหญ่มักจะถอดใจยอมแพ้ในช่วงนี้นี่ล่ะครับ ซึ่งเราก็คงโทษกันไม่ได้ ความคิดของใครก็ของมัน
แต่ที่ผมอยากสะกิดให้คิดก็คือ...
เรามักหาเหตุผลมาสนับสนุนได้ง่ายมาก ว่าเพราะเหตุใดเราจึงควรยอมแพ้ แต่เรามักไม่ได้คิดต่อว่า เมื่อเรารู้ถึงเหตุผลที่เราต้องยอมแพ้แล้ว เราก็น่าจะคิดต่อไปได้ถึงวิธีพลิกกลับมาเอาชนะได้บ้างสิน่า
ผมเคยอ่านเจอคำพูดนึงใน social network นี่ล่ะครับ เค้าว่าไว้ได้ดีเหลือเกินครับ ทำให้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่ออย่างไม่ยอมแพ้...
"หนทางไปสู่ความสบายนั้น ลำบาก ส่วนหนทางไปสู่ความลำบากนั้น สบาย"
ผมเคยเดินอยู่บนทั้ง 2 หนทางมาแล้ว จึงสามารถ confirm ได้ว่า ที่เค้าว่ามานั้น..."จริงแท้"
แล้วคราวนี้จะรู้ได้ยังไงว่า เมื่อไหร่ควรจะต้องเดินต่อ หรือเมื่อไหร่ควรจะหยุดเดิน?
ผมเองก็ไม่ทราบหรอกครับ...เพราะยังเดินไปไม่ถึงเส้นชัยที่ต้องการ
แต่ถ้าตอบตามความเห็นส่วนตัว...ผมจะหยุดเดินบนเส้นทางนั้น ก็ต่อเมื่อผมตอบตัวเองไม่ได้ว่า เส้นทางที่ผมกำลังเดินอยู่นั้น ปลายทางมันอยู่ที่ไหนกันแน่...
ถ้าไม่รู้ว่ากำลังเดินไปไหน เราอาจต้องหยุดเดินชั่วครู่ มองไปข้างหน้า มองซ้าย มองขวา และหันหลังกลับไปมองทางที่เดินผ่านมาซักนิด...
ถ้านิ่งทบทวนแล้ว คิดว่ายังผ่านทางลำบากไม่พอ แสดงว่า ปลายทางยังอยู่อีกไกล...
แต่ถ้ามั่นใจว่า เราน่าจะเดินผ่านช่วงทางที่ลำบากที่สุดมาแล้ว...พ้นแนวไม้ข้างหน้า เราอาจจะเห็น "เส้นชัย" ก็ได้ครับ
ถามว่า ผมมั่นใจได้ยังไง ว่าพ้นแนวไม้ข้างหน้าจะเป็นเส้นชัย?
ไม่รู้สิครับ ก็เห็นแนวไม้อยู่ข้างหน้าแล้ว จะไม่ลองเดินต่ออีกหน่อยหรือครับ?
ถ้าไม่ใช่ ค่อยคิดอีกทีว่าจะเดินต่อหรือเปลี่ยนทางเดินก็ยังไม่สายมั๊งครับ ผมว่า...^^
Comments
Post a Comment