Post#358:
เย็นย่ำวันวาน ผมมีโอกาสได้ไปทานข้าวกับน้องๆ ที่เคยร่วมงานกันเมื่อหลายปีก่อน
บอกตรงๆ ว่าแม้ป่วยไข้ แต่ในใจอบอุ่นมากเหลือเกิน และเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ไปพบปะน้องๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนที่ทำงานกับผมก็ตาม
แน่นอนว่ามาเจอกันแบบนี้ คงหนีไม่พ้นต้องมีเรื่องเม้าส์มอยส์ ปรับทุกข์ แชร์เรื่องราวที่ไปเจอมา แล้วก็คุยสัพเพเหระ ตลกโปกฮา ไปตามประสา
สิ่งที่ผมสรุปได้จากการเม้าส์มอยส์นั้น มีเยอะมากๆ ที่คิดว่าเหมาะจะนำมาแชร์กัน ก็เช่น...
หนึ่ง...ทุกคนต่างมีปัญหาของตัวเอง ไม่ว่าจะปัญหาที่ทำงานหรือปัญหาที่บ้าน ทางเดียวที่จะก้าวผ่านมันไปให้ได้ ก็คือเราต้องคิดบวก ยิ้มรับสถานการณ์อย่างเข้มแข็ง โดยมีพี่ๆ น้องๆ คอยให้กำลังใจอยู่ข้างหลัง และพร้อมยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอ
สอง...เวลาทำงาน อย่ามองจากมุมเราด้านเดียว ถ้าเราเป็นนาย ก็ลองมองในมุมของน้องๆ บ้าง เช่นกัน ถ้าเราเป็นลูกน้อง ก็ต้องเข้าใจนายบ้าง เมื่อได้มองต่างมุม คิดต่างใจ ก็จะทำให้ทำงานด้วยความเข้าใจมากขึ้น
สาม...การเมืองในที่ทำงานมีอยู่ทุกที่ มากน้อยต่างกัน ต่าง office ก็ต่างสถานการณ์ ดังนั้น ตัวเราต้องตระหนักรู้ เลือกอยู่ข้างความถูกต้อง ด้วยท่าทีที่ประนีประนอมเป็นหลัก อย่าเลือกเอาชนะโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา สรุปว่า เลือกทำสิ่งที่ถูกใจนาย โดยวางอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เป็นดี
สี่...การจะเป็น "หัวหน้างาน" น่ะ เป็นโดยตำแหน่ง น้องๆ จำต้องให้ความยำเกรง แต่จะให้พวกเค้าเคารพและศรัทธา เรียกเราได้เต็มปากเต็มคำว่า "เจ้านาย" นั้น ต้องแลกมาด้วยความจริงใจและหวังดีต่อพวกเค้า
ห้า...การจะเป็น "ผู้ใต้บังคับบัญชา" น่ะ ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองก็เพียงพอ อย่างที่เค้าเรียกว่า "responsibility" แต่จะเป็น "ลูกน้อง" ในดวงใจของนายน่ะ ต้องมีความเอาใจใส่ในงาน ไม่ดูดายยามที่นายต้องการความช่วยเหลือ อย่างที่เค้าเรียกว่า "accountability"
หก...สายใยบางๆ ที่เรียกว่า "ความผูกพัน" จะมีความเหนียวแน่นและแข็งแกร่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนที่ผูกสายใยไว้ ผูกมันด้วยหัวใจหรือผลประโยชน์
อีกเรื่องที่ควรรู้ สายใยแห่งความผูกพันนี้ไม่ได้แปรผันตามระยะทางของร่างกาย หากแต่แปรผันตามระยะห่างของหัวใจต่างหาก
เจ็ด...คำแนะนำของเพื่อนที่รู้ใจ, นายที่รัก หรือลูกน้องคนโปรด แม้ตีราคาและมูลค่าไม่ได้ แต่มีคุณค่าทางใจเกินกว่าจะประเมินค่าได้ ไม่ว่าคำแนะนำนั้นจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ ก็ไม่ใช่ประเด็น แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก
แปด...เมื่อน้องๆ เติบโตขึ้นในหน้าที่การงาน "ผลตอบแทนทางการเงิน" อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป แม้จะยังเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ แต่ "ผลตอบแทนทางใจ" กลับมีคุณค่าพอที่จะทำให้พวกเค้าใช้ชีวิตในที่ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้นได้
อย่าลืมว่า "กำลังเงิน" ไม่ใช่อย่างเดียวที่จะทำให้เราอยู่บนโลกนี้ได้ เพราะ "กำลังใจ" ก็เป็นสิ่งที่ต้องเติมให้กันอย่าได้ขาด เช่นกัน
เก้า...ความยินดีของคนเป็น "นาย" ก็คือการได้เห็นน้องๆ เติบโตขึ้นในด้านความสามารถในการทำงาน แต่จะยินดียิ่งกว่า ถ้าเห็นพวกเค้าเติบโตทางความคิด และจะยินดีที่สุด หากได้เฝ้ามองพวกเค้าเติบโตทางจิตวิญญาณ
...
ขอบคุณน้องๆ และเพื่อนๆ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้และนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่นำมาแชร์ และหวังว่า ความรักและความผูกพันแบบนี้ จะปรากฏอยู่กับทุกสถานที่ทำงานนะครับ ^^
Comments
Post a Comment