Skip to main content

Post#349: เนินกับทางโค้ง

Post#349:
ใครๆ ก็รู้ว่า เวลาขับรถทางไกล อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้มีหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นขับรถเร็วเกินควร เพราะถนนมันโล่ง หรือไม่ก็คนขับหลับใน เพราะขับไปเรื่อยๆ แทบไม่ได้ขยับตัว ต่างจากตอนขับรถในเมือง ที่มีนิ่งสลับเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

ถนนที่เป็นทางเข้าหมู่บ้าน หรือตามซอยที่มีทางแยก จึงมักจะมีเนินลูกระนาดหรือเนินหลังเต่าดักอยู่เป็นระยะ เพื่อชะลอไม่ให้เราขับรถเร็วเกินไป จนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

เช่นกันกับที่เวลาขับรถทางไกล เค้าจึงมักทำถนนให้มีทางโค้งสลับกับทางตรง หรือทำบางช่วงของถนนให้เป็นทางขรุขระบ้าง เพื่อให้คนขับได้ขยับพวงมาลัยบ้าง ไม่งั้นก็อาจหลับใน

หันมามองชีวิตเรากันบ้างครับ...

อาจมีบ้างที่เราเผชิญความไม่ราบเรียบของชีวิต อาจจะมีสะดุดบ้าง ต้องเดินทางอ้อมบ้าง ไม่ได้ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ง่ายๆ บางทีกว่าจะถึงจุดหมาย ก็สะดุดแล้วสะดุดอีก อ้อมแล้วอ้อมอีก...

ให้คิดซะว่า ทุกครั้งที่ชีวิตสะดุด ก็เหมือนรถที่เจอเนินลูกระนาดหรือหลังเต่า เป็นโอกาสที่จะได้หันมาทบทวนว่า ชีวิตเราก้าวเร็วจนเกินงามรึเปล่า และเป็นโอกาสให้มองซ้ายมองขวา ได้คิดหาทางหนีทีไล่ใหม่ๆ ไปด้วย

ส่วนทุกครั้งที่เราต้องจำเลือกเดินทางอ้อมเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ก็เหมือนกับรถที่ต้องเจอทางโค้งบ้างเป็นธรรมดา เป็นเหมือนการขยับพวงมาลัยชีวิตให้มีสีสันบ้าง ได้มีโอกาสขยับมือขยับแขนเพื่อหมุนพวงมาลัย ผ่อนคันเร่ง หรือแตะเบรคบ้าง ไม่งั้นเราอาจหลับใน เพราะชีวิตมันตรงๆ จนน่ากลัว

อุปสรรคเหล่านี้ อาจเป็นเหมือนจุดให้เราคิดและทบทวนตัวเองด้วยไปในตัว ถ้ามองไปแล้วในเส้นทางข้างหน้า เห็นเนินเยอะ เห็นมากโค้ง ก็ต้องพิจารณาว่าจะไปต่อ หรือเปลี่ยนเส้นทางดี

เราเป็นคนขับรถอยู่เอง ก็ต้องประเมินฝีมือในการขับรถของตัวเอง ไปพร้อมๆ กับประเมินศักยภาพรถของเรา แล้วก็นำมาเปรียบเทียบกับเส้นทางดูครับ ถ้าไม่หลอกตัวเอง เราก็ต้องรู้ตัวเองดีกว่าใครๆ ว่าสมควรขับฝ่าไปในเส้นทางนั้นต่อไปหรือไม่

ถ้าเรายังคับรถซิตี้คาร์ ก็อย่าหาญไปท้าทายถนนลูกรังเลยครับ เพราะต่อให้ขับรถเก่งยังไง รถก็อาจจะพังก่อนจะขับพ้นถนนลูกรังไปซะเปล่าๆ

...

อุปสรรคที่เจอทั้งเนินลูกระนาด, เนินหลังเต่า, ทางโค้ง หรือกระทั่งถนนขรุขระ แม้จะล้วนแล้วแต่ทำให้ชีวิตเราไปข้างหน้าช้าลงบ้างก็จริง แต่ตราบเท่าที่เราไม่คิดจะหยุดหรือก้าวถอยหลัง ไม่ว่าจะกี่เนิน กี่โค้ง กี่ทางอ้อม กี่ทางเบี่ยง ที่เราเจอ...เราก็ผ่านมันมาได้จนถึงวันนี้...ไม่ใช่หรือครับ


ไม่แน่นะครับ...ผ่านทางโค้งข้างหน้า...อาจจะใกล้ถึง "เส้นชัย" แล้วก็ได้ครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...