Post#346
ผมเคยคุยให้ฟังถึงพฤติกรรมที่ไม่น่าพิศมัยของคนไทย (บางคน) ในที่ทำงาน (Post#168)
แต่จะบอกว่าคนไทยไม่มีข้อดีเลยงั้นสิ?
คำตอบย่อมไม่ใช่
ที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือ เรื่องความมีน้ำใจของคนไทย
ผมเองก็มีลูกน้องฝรั่ง ซึ่งมีความชัดเจนในหน้าที่ของตัวเองมาก จน "เกือบ" จะเหมือน "แล้งน้ำใจ"
ขยายความให้ชัดๆ ก็ต้องบอกว่า เค้าจะทำงานในความรับผิดชอบของเค้าเป็นอย่างดีที่สุด ในขณะที่งานนอกเหนือจากหน้าที่ เค้าก็จะถือว่า "ธุระไม่ใช่"
แต่ถ้าเป็นคนไทย แม้จะไม่ใช่งานของตน ถ้ามีใครขอความช่วยเหลือ ก็มักจะไม่ค่อยปฏิเสธ (หรือไม่กล้าปฏิเสธ) เรียกว่า ถ้าช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป
ในความเป็นจริง ผมว่าเราต้องหาส่วนผสมที่พอเหมาะระหว่างความแตกต่างนี้...
งานในหน้าที่ของตนต้อง ok, ก่อนที่จะไปช่วยชาวบ้าน ไม่ใช่ช่วยแต่งานชาวบ้าน งานของตัวเองไม่เคยเรียบร้อย
แต่ถ้าทำแต่เฉพาะงานตัวเอง โดยไม่คิดช่วยเหลือใครเลย แบบนี้ก็อยู่ในสังคมการทำงานแบบไทยๆ ได้ลำบาก เพราะแม้จะเป็นพนักงานยอดเยี่ยม แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานยอดแย่
เชื่อเถอะครับ ว่าเราเป็นพนักงานยอดเยี่ยมพร้อมๆ กับเป็นเพื่อนร่วมงานผู้เอื้อเฟื้อได้พร้อมๆ กัน
งานเราทำให้เสร็จ แล้วจึงไปช่วยงานเพื่อนได้ ก็เหมือนกับที่เค้าให้เราสวมหน้ากากออกซิเจนก่อน แล้วจึงค่อยหันไปช่วยสวมให้เด็กนั่นล่ะครับ ^^
เค้าไม่ได้สอนให้เราเห็นแก่ตัว เหมือนที่เราชอบเรามาล้อกันขำๆ นะครับ...
ปรัชญาที่แฝงไว้ก็คือ...ถ้ายังเอาตัวเองไม่รอด แล้วจะไปช่วยคนอื่นให้รอดได้ยังไง ฝืนดื้อดึงไป...สุดท้ายจะกลายเป็นไม่รอดทั้งคู่ >_<"
ขอชื่นชมเพื่อนร่วมงานผู้เอื้อเฟื้อที่เป็นพนักงานยอดเยี่ยมได้ในเวลาเดียวกันครับ...คุณคือ "ทรัพยากรอันทรงคุณค่า" ตัวจริง
ผมเคยคุยให้ฟังถึงพฤติกรรมที่ไม่น่าพิศมัยของคนไทย (บางคน) ในที่ทำงาน (Post#168)
แต่จะบอกว่าคนไทยไม่มีข้อดีเลยงั้นสิ?
คำตอบย่อมไม่ใช่
ที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือ เรื่องความมีน้ำใจของคนไทย
ผมเองก็มีลูกน้องฝรั่ง ซึ่งมีความชัดเจนในหน้าที่ของตัวเองมาก จน "เกือบ" จะเหมือน "แล้งน้ำใจ"
ขยายความให้ชัดๆ ก็ต้องบอกว่า เค้าจะทำงานในความรับผิดชอบของเค้าเป็นอย่างดีที่สุด ในขณะที่งานนอกเหนือจากหน้าที่ เค้าก็จะถือว่า "ธุระไม่ใช่"
แต่ถ้าเป็นคนไทย แม้จะไม่ใช่งานของตน ถ้ามีใครขอความช่วยเหลือ ก็มักจะไม่ค่อยปฏิเสธ (หรือไม่กล้าปฏิเสธ) เรียกว่า ถ้าช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป
ในความเป็นจริง ผมว่าเราต้องหาส่วนผสมที่พอเหมาะระหว่างความแตกต่างนี้...
งานในหน้าที่ของตนต้อง ok, ก่อนที่จะไปช่วยชาวบ้าน ไม่ใช่ช่วยแต่งานชาวบ้าน งานของตัวเองไม่เคยเรียบร้อย
แต่ถ้าทำแต่เฉพาะงานตัวเอง โดยไม่คิดช่วยเหลือใครเลย แบบนี้ก็อยู่ในสังคมการทำงานแบบไทยๆ ได้ลำบาก เพราะแม้จะเป็นพนักงานยอดเยี่ยม แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานยอดแย่
เชื่อเถอะครับ ว่าเราเป็นพนักงานยอดเยี่ยมพร้อมๆ กับเป็นเพื่อนร่วมงานผู้เอื้อเฟื้อได้พร้อมๆ กัน
งานเราทำให้เสร็จ แล้วจึงไปช่วยงานเพื่อนได้ ก็เหมือนกับที่เค้าให้เราสวมหน้ากากออกซิเจนก่อน แล้วจึงค่อยหันไปช่วยสวมให้เด็กนั่นล่ะครับ ^^
เค้าไม่ได้สอนให้เราเห็นแก่ตัว เหมือนที่เราชอบเรามาล้อกันขำๆ นะครับ...
ปรัชญาที่แฝงไว้ก็คือ...ถ้ายังเอาตัวเองไม่รอด แล้วจะไปช่วยคนอื่นให้รอดได้ยังไง ฝืนดื้อดึงไป...สุดท้ายจะกลายเป็นไม่รอดทั้งคู่ >_<"
ขอชื่นชมเพื่อนร่วมงานผู้เอื้อเฟื้อที่เป็นพนักงานยอดเยี่ยมได้ในเวลาเดียวกันครับ...คุณคือ "ทรัพยากรอันทรงคุณค่า" ตัวจริง
Comments
Post a Comment