Skip to main content

Post#341: รับคำสั่ง ทำ 123 แต่คิดต่อ 456

Post#341:
เวลาเรารับคำสั่งจากเจ้านาย ให้ทำ 1 2 3 เมื่อทำเสร็จแล้ว เราทำยังไงต่อครับ?

บางคนก็ทำเท่าที่สั่ง รับคำสั่งมา 1 2 3 ก็ทำแค่ 1 2 3

บางคนไม่หยุดแค่ 1 2 3 แต่จะทำต่อ 4 5 6 ไปเลย และบางคนก็ไปไกลกว่า 4 5 6 เพราะทำไปจนถึง 10 เรียกว่าไม่เสร็จไม่เลิก ว่างั้น

คิดๆ ไปแล้ว ก็เป็นกรรมของลูกน้องเหมือนกันนะครับ ใครจะไปรู้ว่า ควรจะทำแบบไหนดี?

บ่อยครั้ง สมัยผมยังเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ผมก็จะได้ยินเสียงปรับทุกข์ ประมาณว่า "ครั้งที่แล้ว ชั้นทำแบบนี้ ยังชมชั้นอยู่เลย ครั้งนี้พอทำแบบเดียวกัน กลับโดนด่าซะอย่างงั้น..."

แล้วเราควรทำแบบไหนดี ถึงจะถูกใจนาย?

เพราะหลายๆ ครั้ง หลายๆ คราว เราก็กลัวจะเกิดเหตุการณ์ประมาณว่า "เร็วก็หาว่าล้ำหน้า ช้าก็ว่าอืดอาด
โง่ก็ถูกตวาด พอฉลาดก็ถูกระแวง พอทำก่อนบอกไม่ได้สั่ง ครั้นทำทีหลังบอกไม่รู้จักคิด..."

สำหรับผม ผมถือคติว่า ถามแล้วโดนด่า ดีกว่าโดนด่า เพราะไม่ได้ถาม...

เมื่อได้รับคำสั่งให้ทำ 1 2 3 ผมจะถามชัดๆ ว่า ปลายทางนายต้องการผลลัพธ์อะไร?

ถ้านายยอมบอก ผมก็จะชวนนายคุยต่อ ว่า 4 5 6 ไปถึง 10 ประมาณนี้ได้มั๊ย? ผมจะได้เห็นภาพรวม และจะได้วางแผนถูก

แต่ถ้านายไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะบอก หรือเจอนายประเภทไม่ชอบให้เราเก่งกว่า ผมจะไม่เซ้าซี้ จะทำ 1 2 3 ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และคิด 4 5 6 ไว้ล่วงหน้า โดยยังไม่ลงมือ

หมายความว่า ทำ 1 2 3 เสร็จแล้ว ผมจะรีบรายงาน แล้วถามนายต่อ ว่าจะให้ทำอะไรต่อมั๊ย? ถ้านายจะให้ทำต่อ 4 5 6 ผมก็จะฟัง แล้วนำมาเทียบว่า 4 5 6 ของนาย กับของที่ผมคิดไว้ ตรงกันหรือต่างกันแค่ไหน? ครั้งหน้า เราก็จะพัฒนางานได้ถูกจริตนายมากขึ้น

แต่ถ้าถามนายแล้ว นายเหวี่ยงว่า ทำไมไม่รู้จักคิด? ผมก็จะอธิบายว่า ผมมีคิดไว้บ้างแล้ว นายจะฟังมั๊ยครับ?

...

ผมเล่าให้ฟังคร่าวๆ เป็นแนวทางนะครับ ไม่ใช่สูตรสำเร็จ นายใครก็ของคนนั้นครับ ต้องรู้จริตของนาย แล้วก็ปรับตัวให้ดีครับ

อ้อ! ส่วนพฤติกรรมไหนที่เรานินทาๆ นายไว้ ก็บันทึกไว้ดีๆ นะครับ วันหนึ่งเมื่อเราเติบโตขึ้น มีลูกน้อง อะไรที่เราไม่ชอบก็อย่าไปทำกับน้องซะล่ะครับ...

เดี๋ยวจะเข้าทำนอง "ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง" ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...