Post#3-14:
เคยได้ยินประโยคเท่ๆ ว่า "เอาเถอะน่า...เรื่องนี้ผม (ฉัน) รับผิดชอบเอง" กันบ้างมั๊ยครับ?
ถามต่อว่า เวลาได้ยินแล้ว เรารู้สึกต่อคำพูดนี้กันยังไงบ้างเอ่ย?
ส่วนตัวผมเอง บอกได้เลยว่า เวลาได้ยินลูกน้องพูดประโยคแบบนี้ทีไร...ผมไม่เคยสบายใจเลยครับ
...
ผมออกตัวก่อนนะครับ ว่านี่เป็นการวิเคราะห์โดยตรรกะและกรอบประสบการณ์ของผมเท่านั้น ซึ่งก็สุดแล้วแต่ หากว่าท่านอื่นจะมีมุมมองที่ต่างออกไป และผมจะยินดีมากๆ ครับ หากจะมีท่านใดแชร์ให้ผมฟัง (อ่าน) บ้าง
เวลาได้ยินประโยคนี้จากลูกน้อง ผมจะกังวลมาก เพราะประโยคนี้มักมาตามหลังสถานการณ์ที่ผู้พูดไม่สามารถอธิบายหรือโน้มน้าวให้ผมหรือทีมงานเชื่อมั่นในวิธีคิดและตรรกะของเค้าได้
ซึ่งมันอาจเพราะสถานการณ์มันซับซ้อนและยืดยาว ยากจะอธิบาย หรือเป็นการตัดสินใจที่รีบมากๆ ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
แต่ประโยคนี้ เน้นไปทาง Emotional มากกว่า Rational ซึ่งสารภาพว่า ผมไม่ค่อยชอบมากนัก หากว่ามันเป็นเรื่องที่กระทบกับระดับที่เหนือกว่าที่ผู้พูดจะรับผิดชอบได้ไหว
...
สำหรับผมแล้ว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีแสดงความรับผิดชอบที่ดูแล้วเท่ (แต่จริงๆ แล้ว ไม่เข้าท่า) ด้วย "การลาออก"
ผลลัพธ์ของงานที่ผิดพลาด ไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ตามแต่...คนลาออกก็ออกไปแล้ว แต่ปัญหาที่คงอยู่นั้น ก็จะกลายเป็นภาระต่อเนื่องที่คนที่เหลืออยู่ ต้องมานั่งแก้ไข ซึ่งบางครั้งก็ยากมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำตั้งแต่แรก กว่าจะเข้าใจเรื่องราวแจ่มแจ้ง บางครั้งความเสียหายก็มักจะขยายวงกว้างขึ้นไปมากแล้ว
ดังนั้น ถ้าผู้พูดอยากจะเท่จริงๆ แล้วล่ะก็ ควรจะแก้ปัญหาให้จบ (หรืออย่างน้อยก็นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ให้กับคนที่เหลืออยู่)...จากนั้นก็ค่อย "ลาออก"
อ้อ! ส่วนพวกทำผิดแล้ว ยังเที่ยวโทษคนนู้นคนนี้ หรือทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนี่...ผมคงไม่ต้องบอกใช่มั๊ยครับ ว่าเราควรทำยังไง?
ผมว่า "การแสดงความรับผิดชอบ" กับ "การหนีความรับผิดชอบ" น่ะ มันต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
...
หากวันนี้คุณเป็นลูกน้อง...ก่อนจะพูดประโยคข้างต้นนี้ ต้องคิดให้มากๆ ว่า คุณรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ได้แน่หรือ?
หากวันนี้คุณเป็นเจ้านาย...ก่อนจะเชื่อประโยคข้างต้นที่ว่า คุณพร้อมจะรับผิดชอบผลลัพธ์แทนลูกน้องที่พูดรึเปล่า?
ถ้าคำตอบจากทั้งลูกน้องและเจ้านาย คือ "ไม่" ก็จงช่วยกันทบทวนแผนงาน...และทึ่สำคัญ ต้องคิดแผนทางเลือก และแนวทางแก้ปัญหาไว้คร่าวๆ ด้วยครับ
พลาดพลั้งขึ้นมา คนที่เป็นเจ้านายทั้งหลายน่ะ จะทั้งเสียใจและเสียลูกน้องไปอย่างน่าเสียดาย...
เคยได้ยินประโยคเท่ๆ ว่า "เอาเถอะน่า...เรื่องนี้ผม (ฉัน) รับผิดชอบเอง" กันบ้างมั๊ยครับ?
ถามต่อว่า เวลาได้ยินแล้ว เรารู้สึกต่อคำพูดนี้กันยังไงบ้างเอ่ย?
ส่วนตัวผมเอง บอกได้เลยว่า เวลาได้ยินลูกน้องพูดประโยคแบบนี้ทีไร...ผมไม่เคยสบายใจเลยครับ
...
ผมออกตัวก่อนนะครับ ว่านี่เป็นการวิเคราะห์โดยตรรกะและกรอบประสบการณ์ของผมเท่านั้น ซึ่งก็สุดแล้วแต่ หากว่าท่านอื่นจะมีมุมมองที่ต่างออกไป และผมจะยินดีมากๆ ครับ หากจะมีท่านใดแชร์ให้ผมฟัง (อ่าน) บ้าง
เวลาได้ยินประโยคนี้จากลูกน้อง ผมจะกังวลมาก เพราะประโยคนี้มักมาตามหลังสถานการณ์ที่ผู้พูดไม่สามารถอธิบายหรือโน้มน้าวให้ผมหรือทีมงานเชื่อมั่นในวิธีคิดและตรรกะของเค้าได้
ซึ่งมันอาจเพราะสถานการณ์มันซับซ้อนและยืดยาว ยากจะอธิบาย หรือเป็นการตัดสินใจที่รีบมากๆ ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
แต่ประโยคนี้ เน้นไปทาง Emotional มากกว่า Rational ซึ่งสารภาพว่า ผมไม่ค่อยชอบมากนัก หากว่ามันเป็นเรื่องที่กระทบกับระดับที่เหนือกว่าที่ผู้พูดจะรับผิดชอบได้ไหว
...
สำหรับผมแล้ว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีแสดงความรับผิดชอบที่ดูแล้วเท่ (แต่จริงๆ แล้ว ไม่เข้าท่า) ด้วย "การลาออก"
ผลลัพธ์ของงานที่ผิดพลาด ไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ตามแต่...คนลาออกก็ออกไปแล้ว แต่ปัญหาที่คงอยู่นั้น ก็จะกลายเป็นภาระต่อเนื่องที่คนที่เหลืออยู่ ต้องมานั่งแก้ไข ซึ่งบางครั้งก็ยากมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำตั้งแต่แรก กว่าจะเข้าใจเรื่องราวแจ่มแจ้ง บางครั้งความเสียหายก็มักจะขยายวงกว้างขึ้นไปมากแล้ว
ดังนั้น ถ้าผู้พูดอยากจะเท่จริงๆ แล้วล่ะก็ ควรจะแก้ปัญหาให้จบ (หรืออย่างน้อยก็นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ให้กับคนที่เหลืออยู่)...จากนั้นก็ค่อย "ลาออก"
อ้อ! ส่วนพวกทำผิดแล้ว ยังเที่ยวโทษคนนู้นคนนี้ หรือทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนี่...ผมคงไม่ต้องบอกใช่มั๊ยครับ ว่าเราควรทำยังไง?
ผมว่า "การแสดงความรับผิดชอบ" กับ "การหนีความรับผิดชอบ" น่ะ มันต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
...
หากวันนี้คุณเป็นลูกน้อง...ก่อนจะพูดประโยคข้างต้นนี้ ต้องคิดให้มากๆ ว่า คุณรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ได้แน่หรือ?
หากวันนี้คุณเป็นเจ้านาย...ก่อนจะเชื่อประโยคข้างต้นที่ว่า คุณพร้อมจะรับผิดชอบผลลัพธ์แทนลูกน้องที่พูดรึเปล่า?
ถ้าคำตอบจากทั้งลูกน้องและเจ้านาย คือ "ไม่" ก็จงช่วยกันทบทวนแผนงาน...และทึ่สำคัญ ต้องคิดแผนทางเลือก และแนวทางแก้ปัญหาไว้คร่าวๆ ด้วยครับ
พลาดพลั้งขึ้นมา คนที่เป็นเจ้านายทั้งหลายน่ะ จะทั้งเสียใจและเสียลูกน้องไปอย่างน่าเสียดาย...
Comments
Post a Comment