Skip to main content

Post#3-6: สั่งก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่ถั่วงอก

Post#3-6:
มื้อเที่ยงของวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปแวะทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะไปประชุมช่วงบ่าย

ร้านนี้เป็นร้านอารมณ์ประมาณร้านข้าวแกงทั่วไปนี่แหละครับ ต่างไปก็แค่ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดกับข้าวขาหมู

และที่สำคัญ เค้ามีระบบให้ลูกค้าจด Order ลงบนกระดาษเองเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น

...

ว่าแล้วผมก็วานให้เพื่อนรุ่นพี่ผมจด Order ให้ เป็นเส้นเล็กน้ำ "ไม่ใส่ถั่วงอก" ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

กลับมาที่โต๊ะอีกที นั่งคุยกันไม่นานครับ "เส้นเล็กน้ำไม่ใส่ถั่วงอก" ที่ว่า ก็มาวางอยู่ตรงหน้า หอมหวลชวนกิน

ชิมน้ำซุปเสร็จ ผมก็ลงมือปรุงก๋วยเตี๋ยว แล้วก็ลงมือคน...และแล้ว "ถั่วงอก" เป็นกำมือเลย ก็โผล่หน้ามาสวัสดีผมเข้าให้ ^^

ผมหันไปถามเพื่อนก่อนเลย ว่าจดให้รึเปล่าว่า "ไม่ใส่ถั่วงอก" และได้รับคำยืนยันว่า จดไปแน่ๆ ก็แปลว่า คนขายก็คงอ่าน Order นั่นแหละครับ แต่หยิบถั่วงอกใส่ลงไปด้วย "ความเคยชิน"

...

อันว่า "ความเคยชิน" นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงานอย่างแท้จริง...เราจึงได้เจอกับเหตุการณ์ของการสั่งก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่ถั่วงอก หรือสั่งอาหารไม่ใส่ผงชูรส แต่คนขายก็ยังเผลอเรอใส่ถั่วงอกและเหยาะผงชูรสลงไปโดยที่เค้าไม่รู้ตัว อยู่เสมอ

แม้จะมีระบบป้องกันข้อผิดพลาด อย่างเช่นการให้ลูกค้าจด Order ลงกระดาษ ก็ยังพลาดอยู่ดี เพราะทำงานตามความเคยชิน ไม่ได้ทำงานตามขั้นตอนที่วางเอาไว้

ผมเอง บ่อยครั้ง เมื่อต้องสืบค้นหาสาเหตุของข้อผิดพลาดในงาน ก็พบว่า "ผู้ร้าย" ก็คือ "ความเคยชิน" กับวิธีทำงานแบบเดิม โดยที่ไม่ยอมเปลี่ยนมาทำงานตามขั้นตอนอย่างที่ว่า นั่นล่ะครับ

ดังนั้น ตัวนายเองก็อย่าไปวางใจ 100% ว่ากำหนดขั้นตอนให้แล้ว แล้วมันจะได้รับการลงมือปฏิบัติได้ตามนั้นเสมอ

ส่วนตัวลูกน้อง ก็จงพยายามทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ตกลงกันไว้ และอย่าเปลี่ยนแปลงเองโดยเด็ดขาด เพราะสุดท้ายมันมักจะจบลงด้วยความโกลาหล

แต่หากพบว่ามีข้อเสนอที่จะทำให้งานดีขึ้นได้ ก็ควรจะเรียกประชุมทุกคนที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทำความเข้าใจและเสนอความเห็นบ้าง เผื่อว่าอาจจะมีบางมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

...

บางครั้ง เราคิดว่าเปลี่ยนขั้นตอนแล้วดี เราลงมือทำก็รู้สึกว่างานเราง่ายขึ้น ซึ่งก็อาจจะดีจริงเฉพาะกับเรา แต่อาจไปทำให้งานคนอื่นยากลำบาก ก็เป็นไปได้อยู่บ่อยๆ

ที่เป็นแบบนี้ เพราะเรามองในมุมของฝ่ายตัวเอง แต่ขั้นตอนการทำงานถูกกำหนดมาจากคนที่มองเห็นภาพรวมขององค์กร

การทำงานร่วมกันในองค์กร จึงละเว้นจาก "วินัยในการทำงาน" ไปเสียไม่ได้จริงๆ ครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...