Post#3-15:
หลายๆ คนคงเคยเจอพวก "มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ" และพวก "มีปากก็สักแต่ว่าพูด" มาไม่น้อย...
เวลาเจอคนพวกนี้ เรามีแต่ต้องทำใจให้หนักแน่นเข้าไว้ครับ พวกเค้าจะพูดอะไรบั่นทอนให้เราเสียกำลังใจ ก็พยายามอย่าใส่ใจให้มากจนเกินไปนัก...ปล่อยให้เสียงจุ๊กจิ๊กกวนใจเหล่านี้ เข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวาไปเสียบ้าง
สู้เอาเวลาที่มานั่งเสียใจกับเสียงฉุดรั้งความก้าวหน้าเหล่านี้ ไปลงมือทำความฝันของเราให้สำเร็จจะดีกว่า
...
อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอให้พึงระวังในการแยกแยะให้ดีนะครับ ว่าเสียงที่มาจากรอบข้างนะ เป็น "เสียงเตือนด้วยความห่วงใย" หรือว่าเป็น "เสียงฉุดรั้งความก้าวหน้า" กันแน่
ผมว่า เราน่าจะพอแยกแยะได้ ว่าการมาเตือนด้วยความหวังดี กับการมายียวนปั่นป่วนความฝันนั้นน่ะ มันต่างกันยังไง
ถ้าเป็นเสียงแบบแรก...อย่ามัวแต่เอา ego ของเรามาเป็นตัวตั้งล่ะครับ ลองเปิดหู เปิดตา และเปิดใจ ฟังบ้าง เผื่อว่าจะนำมาขัดเกลาความฝันของเราให้ชัดเจนมากขึ้นได้
ส่วนถ้าเป็นเสียงแบบหลังล่ะก็...อย่าไปบังคับให้พวกเค้าปิดปาก หรืออย่าไปมัวเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงอยู่เลยครับ
...
มีวาทะหนึ่งของ Bruce Lee สอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดีเหลือเกินครับ...ราชันย์นักบู๊กล่าวไว้ว่า
"The doubters said, "Man cannot fly."
The doers said, "Maybe, but we'll try."
And finally soared
In the morning glow
While non-believers
Watched from below."
แปลว่า...
"คนที่เอาแต่สงสัย พูดว่า "คนเราน่ะ บินไม่ได้หรอก"
ส่วน คนที่ไม่ได้ดีแต่พูด จะพูดว่า "อาจจะได้นะ, เรามาลองดูกันเถอะ"
ในที่สุดแล้ว พวกหลังก็ได้ทะยานไปในท้องฟ้า...
ท่ามกลางประกายแสงแห่งรุ่งอรุณ
ในขณะที่พวกไม่ศรัทธาในการลงมือทำ...
ได้แต่เฝ้ามองจากเบื้องล่าง"
...
หากคุณเข้าถึงความหมายของ Post นี้ ก็แปลว่า คุณน่าจะเข้าใจชีวิตในระดับหนึ่งแล้ว...ดังนั้น จงอย่าท้อเมื่อเจอพวกสักแต่พูด หรือ "ตัวสกัดฝัน" พวกนั้น
โปรดจำไว้ ว่าทางเดียวที่จะทำให้พวกนั้นเงียบเสียงลงได้อย่างสนิท...ก็คงมีแต่การลงมือทำให้สำเร็จเท่านั้น
รออะไรอยู่ล่ะครับ...เรามาลงมือสร้างเครื่องบินแล้วมองพวกนั้นจากด้านบนกันเถอะครับ
หลายๆ คนคงเคยเจอพวก "มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ" และพวก "มีปากก็สักแต่ว่าพูด" มาไม่น้อย...
เวลาเจอคนพวกนี้ เรามีแต่ต้องทำใจให้หนักแน่นเข้าไว้ครับ พวกเค้าจะพูดอะไรบั่นทอนให้เราเสียกำลังใจ ก็พยายามอย่าใส่ใจให้มากจนเกินไปนัก...ปล่อยให้เสียงจุ๊กจิ๊กกวนใจเหล่านี้ เข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวาไปเสียบ้าง
สู้เอาเวลาที่มานั่งเสียใจกับเสียงฉุดรั้งความก้าวหน้าเหล่านี้ ไปลงมือทำความฝันของเราให้สำเร็จจะดีกว่า
...
อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอให้พึงระวังในการแยกแยะให้ดีนะครับ ว่าเสียงที่มาจากรอบข้างนะ เป็น "เสียงเตือนด้วยความห่วงใย" หรือว่าเป็น "เสียงฉุดรั้งความก้าวหน้า" กันแน่
ผมว่า เราน่าจะพอแยกแยะได้ ว่าการมาเตือนด้วยความหวังดี กับการมายียวนปั่นป่วนความฝันนั้นน่ะ มันต่างกันยังไง
ถ้าเป็นเสียงแบบแรก...อย่ามัวแต่เอา ego ของเรามาเป็นตัวตั้งล่ะครับ ลองเปิดหู เปิดตา และเปิดใจ ฟังบ้าง เผื่อว่าจะนำมาขัดเกลาความฝันของเราให้ชัดเจนมากขึ้นได้
ส่วนถ้าเป็นเสียงแบบหลังล่ะก็...อย่าไปบังคับให้พวกเค้าปิดปาก หรืออย่าไปมัวเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงอยู่เลยครับ
...
มีวาทะหนึ่งของ Bruce Lee สอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดีเหลือเกินครับ...ราชันย์นักบู๊กล่าวไว้ว่า
"The doubters said, "Man cannot fly."
The doers said, "Maybe, but we'll try."
And finally soared
In the morning glow
While non-believers
Watched from below."
แปลว่า...
"คนที่เอาแต่สงสัย พูดว่า "คนเราน่ะ บินไม่ได้หรอก"
ส่วน คนที่ไม่ได้ดีแต่พูด จะพูดว่า "อาจจะได้นะ, เรามาลองดูกันเถอะ"
ในที่สุดแล้ว พวกหลังก็ได้ทะยานไปในท้องฟ้า...
ท่ามกลางประกายแสงแห่งรุ่งอรุณ
ในขณะที่พวกไม่ศรัทธาในการลงมือทำ...
ได้แต่เฝ้ามองจากเบื้องล่าง"
...
หากคุณเข้าถึงความหมายของ Post นี้ ก็แปลว่า คุณน่าจะเข้าใจชีวิตในระดับหนึ่งแล้ว...ดังนั้น จงอย่าท้อเมื่อเจอพวกสักแต่พูด หรือ "ตัวสกัดฝัน" พวกนั้น
โปรดจำไว้ ว่าทางเดียวที่จะทำให้พวกนั้นเงียบเสียงลงได้อย่างสนิท...ก็คงมีแต่การลงมือทำให้สำเร็จเท่านั้น
รออะไรอยู่ล่ะครับ...เรามาลงมือสร้างเครื่องบินแล้วมองพวกนั้นจากด้านบนกันเถอะครับ
Comments
Post a Comment