Post#3-92:
ไม่แน่ใจว่า เด็กๆ สมัยนี้ ยังรู้จักบท "อาขยาน" หรือ "บทกลอน" ที่บรรดาลุงป้าน้าอาเคยท่องเมื่อตอนเล็กๆ กันบ้างหรือเปล่าครับ?
สมัยลูกสาวผมอายุประมาณ 2-3 ขวบ ผมก็มักจะให้ท่องบทกลอนและอาขยานต่างๆ เช่น จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าฯ, ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่, ฯลฯ ประมาณนี้
ถ้าถามผมว่าบทกลอนหรือบทอาขยานเหล่านี้ มีประโยชน์อะไร?
ผมตอบได้ว่า นอกเหนือไปจากที่จะช่วยให้เราจดจำอะไรได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังถือเป็นการสืบสานวัฒนธรรมด้านภาษาที่สวยงาม ของพวกเราชาวไทยอีกด้วย
...
ถ้าข้อมูลของผมถูกต้อง สมัยนี้ หลักสูตรการเรียน ไม่ได้สอนให้เราท่อง "ก เอ๋ย ก ไก่, ข ไข่ อยู่ในเล้า, ฯลฯ" แต่ให้ท่อง ก ไก่, ข ไข่, ฯลฯ ไปเรื่อยๆ แทน
ไม่รู้สิครับ ผมว่าวิธีการท่องจำแบบอาขยานโบราณที่มีความคล้องจองของภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องน่ะ มันทำให้เราจำได้ง่ายกว่าเป็นไหนๆ
บางครั้งถ้าทดลองเปลี่ยนแล้วมันไม่ดีกว่าเดิม...มันคงไม่เป็นการถอยหลังลงคลองหรอกครับ ถ้าจะกลับไปนำสิ่งที่ดีงามในอดีตกลับมา
พิสูจน์ได้ง่ายๆ ครับ ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริง...ก็ผ่านมากว่า 30 ปี มาลองให้ผมท่อง ก-ฮ ผมก็ยังท่องจบ, จะให้ผมท่องกาพย์ห่อโคลเห่เรือ, โคลงโลกนิติ หรือจะบทอื่นๆ ผมก็ยังจำได้ค่อนข้างมาก
...
เมื่อวานผมก็คุยกับภรรยาเรื่องนี้ และตกลงกันว่า จะเริ่มสอนให้ลูกสาวท่องจำบทกลอนและบทอาขยานให้มากๆ เพราะอะไรที่เคยสอนเมื่อตอนเธอเล็กๆ เดี๋ยวนี้ก็เลือนไปเกือบจะหมดแล้ว
โดยส่วนตัว ผมน่ะไม่ค่อยชอบใจเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ตรงที่รู้เรื่องราวรอบตัวออกจะมากมาย แต่มักตอบไม่ค่อยจะได้ เมื่อโดนถามคำถามเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมไทย
หากเราไม่รักษาวัฒนธรรมทางภาษาไทยไว้ให้ดี ต่อไปอัตลักษณ์แห่งชาติและภาษาไทยก็จะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา
ใครจะหาว่าผมคร่ำครึก็ไม่ว่าหรอกครับ...แต่ลองถามตัวเองดู ว่าเวลาที่เราถามเจ้าของภาษาหรือเจ้าของประเทศอื่นๆ แล้วเค้าตอบไม่ได้น่ะ เรารู้สึกยังไง?
"รักเธอประเทศไทย" ในแบบของผม ก็เริ่มจาก รักษาความงดงามของภาษาไทยให้คงอยู่นี่แหละครับ ^^
ไม่แน่ใจว่า เด็กๆ สมัยนี้ ยังรู้จักบท "อาขยาน" หรือ "บทกลอน" ที่บรรดาลุงป้าน้าอาเคยท่องเมื่อตอนเล็กๆ กันบ้างหรือเปล่าครับ?
สมัยลูกสาวผมอายุประมาณ 2-3 ขวบ ผมก็มักจะให้ท่องบทกลอนและอาขยานต่างๆ เช่น จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าฯ, ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่, ฯลฯ ประมาณนี้
ถ้าถามผมว่าบทกลอนหรือบทอาขยานเหล่านี้ มีประโยชน์อะไร?
ผมตอบได้ว่า นอกเหนือไปจากที่จะช่วยให้เราจดจำอะไรได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังถือเป็นการสืบสานวัฒนธรรมด้านภาษาที่สวยงาม ของพวกเราชาวไทยอีกด้วย
...
ถ้าข้อมูลของผมถูกต้อง สมัยนี้ หลักสูตรการเรียน ไม่ได้สอนให้เราท่อง "ก เอ๋ย ก ไก่, ข ไข่ อยู่ในเล้า, ฯลฯ" แต่ให้ท่อง ก ไก่, ข ไข่, ฯลฯ ไปเรื่อยๆ แทน
ไม่รู้สิครับ ผมว่าวิธีการท่องจำแบบอาขยานโบราณที่มีความคล้องจองของภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องน่ะ มันทำให้เราจำได้ง่ายกว่าเป็นไหนๆ
บางครั้งถ้าทดลองเปลี่ยนแล้วมันไม่ดีกว่าเดิม...มันคงไม่เป็นการถอยหลังลงคลองหรอกครับ ถ้าจะกลับไปนำสิ่งที่ดีงามในอดีตกลับมา
พิสูจน์ได้ง่ายๆ ครับ ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริง...ก็ผ่านมากว่า 30 ปี มาลองให้ผมท่อง ก-ฮ ผมก็ยังท่องจบ, จะให้ผมท่องกาพย์ห่อโคลเห่เรือ, โคลงโลกนิติ หรือจะบทอื่นๆ ผมก็ยังจำได้ค่อนข้างมาก
...
เมื่อวานผมก็คุยกับภรรยาเรื่องนี้ และตกลงกันว่า จะเริ่มสอนให้ลูกสาวท่องจำบทกลอนและบทอาขยานให้มากๆ เพราะอะไรที่เคยสอนเมื่อตอนเธอเล็กๆ เดี๋ยวนี้ก็เลือนไปเกือบจะหมดแล้ว
โดยส่วนตัว ผมน่ะไม่ค่อยชอบใจเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ตรงที่รู้เรื่องราวรอบตัวออกจะมากมาย แต่มักตอบไม่ค่อยจะได้ เมื่อโดนถามคำถามเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมไทย
หากเราไม่รักษาวัฒนธรรมทางภาษาไทยไว้ให้ดี ต่อไปอัตลักษณ์แห่งชาติและภาษาไทยก็จะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา
ใครจะหาว่าผมคร่ำครึก็ไม่ว่าหรอกครับ...แต่ลองถามตัวเองดู ว่าเวลาที่เราถามเจ้าของภาษาหรือเจ้าของประเทศอื่นๆ แล้วเค้าตอบไม่ได้น่ะ เรารู้สึกยังไง?
"รักเธอประเทศไทย" ในแบบของผม ก็เริ่มจาก รักษาความงดงามของภาษาไทยให้คงอยู่นี่แหละครับ ^^
Comments
Post a Comment