Post#3-88:
"จ็มเรียบซัว" ครับ...
วันนี้ ผมมีภารกิจต้องบินมาประชุมที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แบบไปเช้าเย็นกลับ เรียกว่าบินไป flight แรก และบินกลับ flight สุดท้ายเลย ว่างั้น
ถ้าจำไม่ผิด ผมไม่ได้มาที่นี่กว่า 4 ปีแล้ว...ได้แต่บอกว่า กรุงพนมเปญเปลี่ยนไปมาก มากจนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
และหลักฐานของความเจริญที่ว่า...นั่นก็คือ "รถติด" และ "ห้างสรรพสินค้า" นั่นเอง
แต่ High-light สำหรับผม ก็คือ...ที่นี่มี Showroom รถ Rolls-Royce ด้วยนะครับ O_o"
...
เท่าที่ผมสอบถามลูกค้า การจราจรที่นี่เริ่มเหมือนบ้านเราเข้าไปทุกที คือติดมากๆ ในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงก่อนเข้างานและหลังเลิกงาน (ที่นี่ทำงาน 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น)
แล้วที่ผมฟังแล้วต้องอมยิ้มก็คือ ที่นี่เค้าก็มี "วันศุกร์แห่งชาติ" เช่นกัน...ซึ่งผมโชคดีที่เป็นวันนี้พอดี และส่งผลให้ผมใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง (กับระยะทางแค่ 15 กิโลเมตร) มาถึง Airport
ส่วนที่ผมทึ่งมากก็คือผู้ขับขี่ยานพาหนะที่นี่ ค่อนข้างมีทักษะสูงมาก เพราะ Lane ขับมันเพิ่มๆ ลดๆ ได้โดยอัตโนมัติ...เรียกว่า ขับกันไปหลบกันไป ดูปวดหัวดีพิลึก
โดยเฉพาะชาวมอเตอร์ไซค์ด้วยแล้ว ผมเข้าใจว่าพวกเค้าส่วนใหญ่อาจจะมี DNA ของค้างคาวไหลเวียนอยู่ในร่าง เพราะขับขี่เสมือนใช้ระบบ Sonar Navigation มากๆ
...
เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน 7 โมงเช้า และเลิกเรียนแค่ 11 โมงเช้า เท่านั้นเองครับ...อ้อ ผมได้ยินเค้าเล่าอีกว่า ที่นี่มีเคารพธงชาติด้วย (ตอน 7 โมงเช้า) แต่ไม่รู้ว่ามีตอนเย็นเหมือนบ้านเรามั๊ย
เลิกเรียนแล้ว ก็กลับบ้านไปทานข้าว จากนั้นบางคนก็จะไปเรียนพิเศษต่อ...เด็กๆ เค้าขยันแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปคนไทยจะยังกล้าพูดว่า เราเหนือกว่าชาว CLMV ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ไปสัมผัสพวกเค้ามา...
ต้องบอกว่า...พวกเค้าไม่ใช่ประเทศที่เราจะประเมินต่ำๆ ได้อีกแล้ว
...
แม้ว่าห้างสรรพสินค้าที่นี่จะยังมีน้อยมากๆ แต่เท่าที่วันนี้ไปเดินสำรวจตลาดมา...พบว่าร้าน Brand Name และร้านอาหาร Franchise เพียบพร้อม และหาความต่างจากบ้านเราแทบไม่เจอ
ผิดกันตรงที่ราคาสินค้าและบริการเทียบกับค่าครองชีพแล้ว ออกจะสูงกว่าบ้านเราเอาการอยู่...ยกตัวอย่างเช่น ราคาน้ำอัดลมแบบกระป๋อง ที่นี่อยู่ที่ USD0.61 ก็ประมาณ 22 บาท
คล้ายๆ กับพม่า ที่นี่ตั้งราคาสินค้าเป็น USD เป็นหลักนะครับ แต่เวลาทอนเงินก็มีทั้งเงินเรียล (1 บาท เท่ากับ 113 เรียล) เพราะอัตราแลกเปลี่ยนมีความผกผันมากพอดู
...
คนที่นี่ก็นิยมบริโภคละครไทยอยู่บ้าง แต่ที่เห็นอิทธิพลมากๆ ก็ยังคงเป็นเกาหลี และสินค้าเกาหลีเริ่มแย่งส่วนแบ่งสินค้าญี่ปุ่นไปได้มากพอดู
ที่น่าชี้ชมอีกเรื่องก็คือ สาวๆ ที่นี่แต่งหน้า, ทำผม และแต่งตัว สวยไม่แพ้สาวๆ ในกรุงเทพฯ เลยครับ...แต่หนุ่มๆ ที่นี่ยังแต่งตัวไม่เก่งเท่าไหร่ ยังห่างชั้นจากหนุ่มบ้านเราเยอะ
อ้อ...คนไทยมาที่นี่ไม่ต้องขอ Visa นะครับ แต่อยู่ได้ไม่เกิน 14 วันนะครับ
"เลียเฮิวย์" ไปก่อนนะครับ (สำเนียงเค้าออกเสียงยากจริงๆ ครับ)
"จ็มเรียบซัว" ครับ...
วันนี้ ผมมีภารกิจต้องบินมาประชุมที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แบบไปเช้าเย็นกลับ เรียกว่าบินไป flight แรก และบินกลับ flight สุดท้ายเลย ว่างั้น
ถ้าจำไม่ผิด ผมไม่ได้มาที่นี่กว่า 4 ปีแล้ว...ได้แต่บอกว่า กรุงพนมเปญเปลี่ยนไปมาก มากจนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
และหลักฐานของความเจริญที่ว่า...นั่นก็คือ "รถติด" และ "ห้างสรรพสินค้า" นั่นเอง
แต่ High-light สำหรับผม ก็คือ...ที่นี่มี Showroom รถ Rolls-Royce ด้วยนะครับ O_o"
...
เท่าที่ผมสอบถามลูกค้า การจราจรที่นี่เริ่มเหมือนบ้านเราเข้าไปทุกที คือติดมากๆ ในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงก่อนเข้างานและหลังเลิกงาน (ที่นี่ทำงาน 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น)
แล้วที่ผมฟังแล้วต้องอมยิ้มก็คือ ที่นี่เค้าก็มี "วันศุกร์แห่งชาติ" เช่นกัน...ซึ่งผมโชคดีที่เป็นวันนี้พอดี และส่งผลให้ผมใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง (กับระยะทางแค่ 15 กิโลเมตร) มาถึง Airport
ส่วนที่ผมทึ่งมากก็คือผู้ขับขี่ยานพาหนะที่นี่ ค่อนข้างมีทักษะสูงมาก เพราะ Lane ขับมันเพิ่มๆ ลดๆ ได้โดยอัตโนมัติ...เรียกว่า ขับกันไปหลบกันไป ดูปวดหัวดีพิลึก
โดยเฉพาะชาวมอเตอร์ไซค์ด้วยแล้ว ผมเข้าใจว่าพวกเค้าส่วนใหญ่อาจจะมี DNA ของค้างคาวไหลเวียนอยู่ในร่าง เพราะขับขี่เสมือนใช้ระบบ Sonar Navigation มากๆ
...
เด็กๆ ต้องไปโรงเรียน 7 โมงเช้า และเลิกเรียนแค่ 11 โมงเช้า เท่านั้นเองครับ...อ้อ ผมได้ยินเค้าเล่าอีกว่า ที่นี่มีเคารพธงชาติด้วย (ตอน 7 โมงเช้า) แต่ไม่รู้ว่ามีตอนเย็นเหมือนบ้านเรามั๊ย
เลิกเรียนแล้ว ก็กลับบ้านไปทานข้าว จากนั้นบางคนก็จะไปเรียนพิเศษต่อ...เด็กๆ เค้าขยันแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปคนไทยจะยังกล้าพูดว่า เราเหนือกว่าชาว CLMV ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ไปสัมผัสพวกเค้ามา...
ต้องบอกว่า...พวกเค้าไม่ใช่ประเทศที่เราจะประเมินต่ำๆ ได้อีกแล้ว
...
แม้ว่าห้างสรรพสินค้าที่นี่จะยังมีน้อยมากๆ แต่เท่าที่วันนี้ไปเดินสำรวจตลาดมา...พบว่าร้าน Brand Name และร้านอาหาร Franchise เพียบพร้อม และหาความต่างจากบ้านเราแทบไม่เจอ
ผิดกันตรงที่ราคาสินค้าและบริการเทียบกับค่าครองชีพแล้ว ออกจะสูงกว่าบ้านเราเอาการอยู่...ยกตัวอย่างเช่น ราคาน้ำอัดลมแบบกระป๋อง ที่นี่อยู่ที่ USD0.61 ก็ประมาณ 22 บาท
คล้ายๆ กับพม่า ที่นี่ตั้งราคาสินค้าเป็น USD เป็นหลักนะครับ แต่เวลาทอนเงินก็มีทั้งเงินเรียล (1 บาท เท่ากับ 113 เรียล) เพราะอัตราแลกเปลี่ยนมีความผกผันมากพอดู
...
คนที่นี่ก็นิยมบริโภคละครไทยอยู่บ้าง แต่ที่เห็นอิทธิพลมากๆ ก็ยังคงเป็นเกาหลี และสินค้าเกาหลีเริ่มแย่งส่วนแบ่งสินค้าญี่ปุ่นไปได้มากพอดู
ที่น่าชี้ชมอีกเรื่องก็คือ สาวๆ ที่นี่แต่งหน้า, ทำผม และแต่งตัว สวยไม่แพ้สาวๆ ในกรุงเทพฯ เลยครับ...แต่หนุ่มๆ ที่นี่ยังแต่งตัวไม่เก่งเท่าไหร่ ยังห่างชั้นจากหนุ่มบ้านเราเยอะ
อ้อ...คนไทยมาที่นี่ไม่ต้องขอ Visa นะครับ แต่อยู่ได้ไม่เกิน 14 วันนะครับ
"เลียเฮิวย์" ไปก่อนนะครับ (สำเนียงเค้าออกเสียงยากจริงๆ ครับ)
Comments
Post a Comment