Skip to main content

Post#3-93: สั่งงานให้เป็น...เน้นงานให้ถูก

Post#3-93:
เคยได้ยินคำตอบที่ว่า "กำลังทำอยู่ครับ/ค่ะ" กันบ้างมั๊ยครับ?

ผมตอบได้ว่า ผมได้ยินคำตอบแบบนี้บ่อยมากจริงๆ เวลาที่ตามงานจากลูกน้อง

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่จะต้องบอกว่า ส่วนใหญ่ของคำตอบแบบนี้ มักจะแปลว่า "ยังไม่ได้ลงมือทำเลย" ต่างหาก

...

แน่นอนว่า เวลาได้ยินคำตอบแบบนี้ เจ้านายทั้งหลายก็คงจะอดโกรธไม่ได้...แต่ก่อนที่จะโกรธลูกน้อง ลองพิจารณาข้อสะกิดใจต่อไปนี้ดูก่อนครับ

หนึ่ง...เรามอบหมายงานนั้น เหมาะสมกับความสามารถของลูกน้องแล้วหรือไม่?

สอง...เรารู้หรือไม่ว่า เรามอบหมายงานให้ลูกน้องไปแล้วทั้งหมดกี่เรื่อง? เค้าจะทำทันมั๊ย?

สาม...เราได้ลำดับความสำคัญให้ลูกน้องมั๊ย ว่าจะต้องทำเรื่องไหนก่อน?

สี่...เราได้อธิบายรายละเอียดของงานมากน้อยแค่ไหน แล้วแน่ใจใช่มั๊ย ว่าลูกน้องเข้าใจงานอย่างชัดเจน?

ห้า...เราติดตามความคืบหน้าของงานบ่อยครั้งแต่ไหน? ให้งานไปแล้วไปตามงานเมื่อตอน Dead Line เลยหรือเปล่า?

หก...เราวาง Buffer Time เผื่อต้องให้กลับไปแก้ไขงานบ้างมั๊ย? (กรณีเกิดเหตุให้ต้องแก้ไขงาน...ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ)

...

สำหรับตัวผมเองบางครั้งที่ตำหนิลูกน้องไป ก็มานั่งรู้สึกผิดด้วยเช่นกัน...ค่าที่ว่า ไม่ได้ทำข้อสะกิดใจได้ครบถ้วน

ซึ่งถ้าเจ้านายท่านใด ยังทำได้ไม่ครบ แล้วไปตำหนิ, ต่อว่า หรือด่าทอ ลูกน้อง...ก็เหมือนกับด่าตัวเองไปด้วยกลายๆ นั่นล่ะครับ

แต่ถ้าทำครบทุกข้อแล้ว ลูกน้องก็ยังส่งมอบงานที่มีคุณภาพตรงตามเวลาไม่ได้...ก็คงตำหนิลูกน้องได้เต็มปากครับ

...

ส่วนใครที่เป็นลูกน้อง จะถามผมว่า มีข้อสะกิดใจอะไรให้บ้างมั๊ย? หรือต้องทำไงดี กรณีที่นายเรียกไปมอบหมายงาน?

ตอบแบบไม่ได้ยียวนเลยว่า ข้อสะกิดใจทั้งหลายข้างต้นนั้น เอามาใช้เตือนตัวเองเวลาคุยกับนายได้ทุกข้อเลยครับ

หนึ่ง...ถ้าคิดว่างานยากเกิน ต้องรู้จักขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ใช่ปฏิเสธทันที

สอง...ถ้างานล้นมือ ต้องแจ้งให้นายทราบทันที ไม่ใช่เอาระเบิดไปกอดไว้

สาม...ถ้างานนั้นก็ด่วน งานนี้ก็เร่ง..จำไว้ว่า จงให้นายเป็นผู้ตัดสินใจให้ เลือกเองมีสิทธิ์ช้ำเอง ^^

สี่...ถ้านายสั่งงานแล้วไม่เข้าใจ ต้องถามให้ชัดเจน...นายทุกคนโกรธแน่ๆ เวลาตามงานแล้วตอบว่า ตอนนายสั่งงาน ผม/หนู ไม่เข้าใจ

ห้า...ถ้าทำงานแล้วไม่คืบหน้า เจอปัญหาหรืออุปสรรคที่แก้เองไม่ได้...ต้องรายงานทันที ไม่ใช่รอจนมันลุกลามใหญ่โต แล้วค่อยมาบอก

หก...เผื่อเวลาไว้บ้าง อย่าส่งงานในวัน Dead Line เพราะถ้าโดนแก้งาน รับรองว่าวันนั้นได้กลับบ้านดึก พ่วงด้วยอารมณ์ทั้งของเราและของนายที่จะเสียไปตามๆ กัน

...

ไม่มีเจ้านาย...เราก็ไม่มีโอกาสฉายแสงแสดงผลงาน

ไม่มีลูกน้อง...นายจะเก่งแค่ไหนก็มีแค่ 2 มือ

จะเป็นเจ้านายที่เก่ง...ต้องเติบโตจากการเป็นลูกน้องที่ดี

จะเป็นเจ้านายที่ดี...ต้องส่งเสริมให้ลูกน้องเก่งขึ้นและเก่งขึ้น

จะเป็นลูกน้องที่เก่ง...จึงจำต้องมองหาเจ้านายดีๆ

จะเป็นลูกน้องที่ดี...จึงต้องเรียนรู้จากเจ้านายเก่งๆ

ดังนั้น ทั้งคนเป็นนายและลูกน้อง...เรามาพยายามไปด้วยกันนะครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...