Post#3-99:
ช่วง 2 วันมานี้ ผมใช้ชีวิตเข้าออกห้องประชุมเป็นว่าเล่นเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุที่มีหลากเรื่องหลายบริษัทฯ ที่ต้องจัดการ
ต่างบริษัทก็ต่างเรื่องราวต่างปัญหา...มากน้อยและหนักเบาต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ทุกปัญหาต่างก็ไหลมาหาคนนำองค์กรนั่นเอง
ไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียวที่เจอ...หากแต่ใครที่อยู่ในฐานะคนนำองค์กร ก็รับรองได้ว่า แม้จะมอบหมายงานให้ลูกน้องไปแล้ว ก็อย่าหวังว่าความรับผิดชอบในผลลัพธ์จะตามไปกับลูกน้องด้วย
...
ฉะนั้น คนที่เป็นเจ้านาย จึงต้องแบกรับความรับผิดชอบที่มีขนาดและจำนวนอันมหาศาล และยิ่งองค์กรใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ขนาดและจำนวนมันก็จะโตตามไปด้วยเท่านั้น
ยามที่เศรษฐกิจเป็นปกติ ก็ต้องยอมรับว่าเจ้านายอาจจะมีความเหนื่อยกายน้อยกว่าลูกน้อง ส่วนความเหนื่อยใจก็มักจะเกิดจากปัญหาภายในเป็นหลัก
แต่ยามที่เป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง บรรดาเจ้านายทั้งหลายน่ะ ทั้งต้องเหนื่อยกายทุ่มเทให้มากกว่าลูกน้อง และทั้งต้องแบกรับความเหนื่อยใจที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งบอกได้เลยว่า มันจะมาพร้อมๆ กันทั้งปัญหาภายในและภายนอก อย่างแน่นอน
...
ทั้งนี้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจแย่ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะโทษคนอื่น แต่ไม่โทษตัวเอง ดังนั้น การกระทบกระทั่งกันเองในองค์กร จึงเป็นอะไรที่ไม่เกินคาดฝัน
แต่ที่ถูกแล้ว ในช่วงที่ทุกบริษัทฯ ต่างต้องเจอแรงกระแทกทางเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกคนก็ควรเน้นความสามัคคี ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่มัวแต่โทษกันเองว่า ใครเป็นคนสร้างปัญหา
เปรียบเสมือน...ไม่ว่าใครก็ตามทำเรือรั่ว คนที่อยู่บนเรือก็ต้องอุดรูรั่วก่อนครับ...เดี๋ยวเรือเข้าฝั่งได้แล้ว ค่อยมาคิดบัญชีก็ยังไม่สาย
แต่ถ้าเจอพวกทำเรือรั่วแล้วยังนั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ได้รู้สำนึกที่จะแก้ปัญหา...เห็นทีผมคงต้องเสียมารยาทแนะนำให้กัปตันเตะตัวปัญหาให้ตกเรือ คงน่าจะดี :P
ช่วง 2 วันมานี้ ผมใช้ชีวิตเข้าออกห้องประชุมเป็นว่าเล่นเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุที่มีหลากเรื่องหลายบริษัทฯ ที่ต้องจัดการ
ต่างบริษัทก็ต่างเรื่องราวต่างปัญหา...มากน้อยและหนักเบาต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ทุกปัญหาต่างก็ไหลมาหาคนนำองค์กรนั่นเอง
ไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียวที่เจอ...หากแต่ใครที่อยู่ในฐานะคนนำองค์กร ก็รับรองได้ว่า แม้จะมอบหมายงานให้ลูกน้องไปแล้ว ก็อย่าหวังว่าความรับผิดชอบในผลลัพธ์จะตามไปกับลูกน้องด้วย
...
ฉะนั้น คนที่เป็นเจ้านาย จึงต้องแบกรับความรับผิดชอบที่มีขนาดและจำนวนอันมหาศาล และยิ่งองค์กรใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ขนาดและจำนวนมันก็จะโตตามไปด้วยเท่านั้น
ยามที่เศรษฐกิจเป็นปกติ ก็ต้องยอมรับว่าเจ้านายอาจจะมีความเหนื่อยกายน้อยกว่าลูกน้อง ส่วนความเหนื่อยใจก็มักจะเกิดจากปัญหาภายในเป็นหลัก
แต่ยามที่เป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง บรรดาเจ้านายทั้งหลายน่ะ ทั้งต้องเหนื่อยกายทุ่มเทให้มากกว่าลูกน้อง และทั้งต้องแบกรับความเหนื่อยใจที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งบอกได้เลยว่า มันจะมาพร้อมๆ กันทั้งปัญหาภายในและภายนอก อย่างแน่นอน
...
ทั้งนี้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจแย่ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะโทษคนอื่น แต่ไม่โทษตัวเอง ดังนั้น การกระทบกระทั่งกันเองในองค์กร จึงเป็นอะไรที่ไม่เกินคาดฝัน
แต่ที่ถูกแล้ว ในช่วงที่ทุกบริษัทฯ ต่างต้องเจอแรงกระแทกทางเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกคนก็ควรเน้นความสามัคคี ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่มัวแต่โทษกันเองว่า ใครเป็นคนสร้างปัญหา
เปรียบเสมือน...ไม่ว่าใครก็ตามทำเรือรั่ว คนที่อยู่บนเรือก็ต้องอุดรูรั่วก่อนครับ...เดี๋ยวเรือเข้าฝั่งได้แล้ว ค่อยมาคิดบัญชีก็ยังไม่สาย
แต่ถ้าเจอพวกทำเรือรั่วแล้วยังนั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ได้รู้สำนึกที่จะแก้ปัญหา...เห็นทีผมคงต้องเสียมารยาทแนะนำให้กัปตันเตะตัวปัญหาให้ตกเรือ คงน่าจะดี :P
Comments
Post a Comment