Skip to main content

Post#327: พูดแต่เรื่องเดิมๆ

Post#327:
บ่อยครั้งที่ผมเบื่อตัวเองที่ต้องพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่จะว่าไปก็ไม่รู้จะบ่นไปทำไม เพราะยังไงก็คงต้องพูด ตราบเท่าที่สิ่งที่พูดไปยังไม่ได้รับการตอบสนอง

ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงการทำงานกับทีมงาน โดยเฉพาะกับน้องๆ ตำแหน่งเล็กๆ ระดับปฏิบัติการ และแน่นอนว่า บางทีกับระดับบังคับบัญชาและระดับบริหาร ก็ยังต้องพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ อยู่เช่นกัน

ที่ผมเล่าว่า พูดเรื่องเดิมซ้ำๆ นี่ ไม่ใช่ว่า ผมพูดเหมือนกันทุกครั้งหรอกนะครับ เพราะถ้าผมรู้สึกว่า ใช้วิธีพูดแบบเดิมแล้ว ยังไม่เข้าใจ ผมก็จะเปลี่ยนแนวทางการสื่อสารไปพร้อมๆ กับเพิ่มความ “ร้อนแรง” ของการพูดไปด้วย >_<“

จริงๆ ผมว่า ทีมงานก็คงจะเบื่อผมเหมือนกันแหละครับ ที่ดูเหมือนจะพูดเรื่องเดิมๆ อยู่ได้ (แม้วิธีการพูดจะต่าง แต่เนื้อหานี่เรื่องเดิมแน่ๆ)

ย้อนกลับไปสมัยผมยังเป็นจูเนียร์ ผมก็รู้สึกเบื่อนายตัวเองไม่ต่างจากที่ทีมงานน่าจะเบื่อผมอยู่ในตอนนี้ จะว่าไปผมว่า มันก็คงเป็นกงเกวียนกำเกวียนนั่นแหละครับ เคยบ่นนายตัวเองยังไง เดี๋ยวนี้ก็คงโดนทีมงานบ่นไม่ต่างกัน

แต่กระนั้น คนที่เป็นนายก็ยังคงต้องพูดเรื่องเดิมๆ เนื้อหาเดิม อยู่นั่นเอง ตราบเท่าที่สิ่งที่นายมุ่งหวังไว้ ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ตราบเท่าที่ ความผิดพลาดยังเกิดขึ้นในจุดเดิมๆ, คนที่ผิดพลาดก็ยังเป็นคนเดิมๆ, สิ่งที่สั่งการไป ยังไม่สำเร็จลุล่วง, และอีกสารพัดเรื่องที่ไม่น่าต้องพูดซ้ำ แต่ก็ต้องพูดซ้ำอยู่นั่นแล้ว

ยกตัวอย่างหัวข้อเรื่องดูนะครับ จะได้นึกภาพออกว่า เรื่องไหนบ้างที่เบื่อกันทั้งคนพูดและคนฟัง

คำถาม: เรื่องนี้ คุณคุยกับฝ่ายผลิตรึยังครับ? / คำตอบ: ยังครับ
(ประเด็น: แล้วทำไมไม่คุยกันล่ะ -*-, คราวที่แล้วก็ถามคำถามนี้นะ ชิ)

คำถาม: ได้คำนวณรึยัง ว่าทำโปรฯ นี้ แล้วคุ้มรึเปล่า? / คำตอบ: น่าจะคุ้มครับ
(ประเด็น: ถ้าน่าจะคุ้ม ก็แปลว่าน่าจะไม่คุ้มก็ได้สิ แล้วจะให้ทำดีมั๊ยเนี่ย? ทำไมไม่คำนวณมาให้แน่ๆ ไม่เข้าใจอ่ะ)

คำถาม: คุณแน่ใจนะ ว่าข้อมูลที่นำมาเสนอนี้ถูกต้อง / คำตอบ: ขอไปเช็คอีกทีได้มั๊ยครับ
(ประเด็น: ถามเช็คไปงั้นๆ พอได้คำตอบแบบนี้ เล่นเอามึนและเซ็งไปเลย แล้วจะเชื่อถือได้มั๊ยเนี่ย)

คำถาม: งานที่ให้ไปทำ ทำไปถึงไหนแล้วครับ? / คำตอบ: ทำเสร็จแล้วครับ แต่ไม่ได้เรียนให้ทราบ
(ประเด็น: พี่จะเก็บไว้ภูมิใจคนเดียวทำไมครับ >_<", ไอ้เรารึก็รอ จะได้สั่งงานขั้นต่อไปได้, เอ๊ะ หรือเพราะน้องรู้แกว เลยไม่มาบอก รอให้ตาม?)

คำถาม: ทำไมมาทำงานสายครับ? / คำตอบ: รถติดครับ
(ประเด็น: แล้วตื่นกี่โมง ออกจากบ้านกี่โมง?, คำตอบว่ารถติด ดูไม่ค่อยรับผิดชอบเท่าไหร่นะ รถมันก็ติดทุกวันนั่นแหละ)

ส่วนถ้าเป็นคำถามที่ลูกน้องแอบเซ็งนาย ผมว่ามีนับไม่ถ้วน จะให้ยกตัวอย่างก็ได้ครับ เช่น

คำถาม: หนูส่ง mail ให้พี่แล้ว พี่เปิดอ่านรึยังคะ / คำตอบ: ส่งมาเมื่อไหร่ ไม่เห็นนะ ส่งมาอีกทีได้มั๊ย
(ความรู้สึกของลูกน้อง: ชิ หนูส่งไป 3 หนแล้วพี่, พูดแบบนี้อีกละ)

คำถาม: เรื่องนั้น ตกลงพี่จะตัดสินใจยังไงดีคะ / คำตอบ: เอาไว้ก่อนนะ ช่วงนี้พี่ยุ่งๆ
(ความรู้สึกของลูกน้อง: พี่จะให้หนูรอถึงชาติหน้ามั๊ยคะ แล้วงานไม่เดินหน้า อย่ามาว่าหนูนะคะ)

พอดีกว่าครับ มันแสลงใจ อิอิ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...