Skip to main content

Post#299: แกะห่อขนม

Post#299:
ผมเข้าใจว่า ทุกคนน่าจะเคยทานขนมที่เป็นถุงๆ กันมาบ้างนะครับ

ใช่ครับ ผมหมายถึงขนมขบเคี้ยว อารมณ์ประมาณ มันฝรั่ง, ขนมแป้งข้าวโพด, ขนมแป้งข้าวเจ้า, ฯลฯ ที่เราเรียกกันตามศัพท์การตลาด ว่า “ขนมขึ้นรูป” นั่นแหละครับ

เวลาแกะห่อขนม เราแกะตรงไหนของห่อครับ?

บางท่านคงกำลังนึกว่า “เอ้า! จะถามทำไม ก็แกะตรงตำแหน่งที่เค้าบากไว้ให้นะสิ”

ถูกต้องแล้วครับ ถามใครก็ตาม เค้าก็แกะที่ตำแหน่งนี้กันทั้งนั้นแหละ

คราวนี้ ถามอีกที...แล้วเคยลองแกะห่อขนมจากตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ตรงที่เค้าบากไว้ให้บ้างมั๊ยครับ?

ใครที่เคย จะทราบดี ว่าถ้าไม่แกะห่อขนมจากตำแหน่งที่ว่า ห่อขนมนั้นจะแกะยากสิ้นดี และถึงแม้จะแกะได้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ไม่ขนมโดนบี้จนแตกหัก ก็กลายเป็นขนมหกกระจายเกลื่อนพื้น

ในชีวิตจริง เรากำลังทำแบบนี้บ้างรึเปล่า?

บางครั้งเราฝืนดื้อดึงไม่เข้าท่า ทำเรื่องอะไรตาม ego ของตัวเอง แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ควรจะทำ (เสมือนการแกะห่อขนมตรงตำแหน่งที่บากไว้) เรากลับเลือกตะแบงที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่บางครั้งมันไม่ได้เข้าท่า เพียงเพื่อรักษาหน้าหรือเพียงเพื่อให้เป็นไปตาม ego ของเรา (ก็เปรียบเสมือนการแกะห่อขนมในตำแหน่งที่ไม่ใช่รอยบาก)

ผมพบว่า เราหลายๆ คน เป็นแบบนี้กันบ่อยมาก เราเลือกทำสิ่งที่ถูกใจมากกว่าสิ่งที่ถูกต้อง และมากครั้งที่สิ่งที่ถูกใจในตอนแรก กลายเป็นบาดแผลที่เราต้องจำไปอีกแสนนาน สุดท้ายกลายเป็นสูญเสียไปทั้งความถูกต้องและความถูกใจ

แต่ถ้าเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะขัดอกขัดใจไปบ้าง สุดท้ายความถูกต้องนั้น ก็จะเป็นตัวสร้างให้เราเกิดความถูกใจตามมา

ใช่ครับ พูดหรือเขียนน่ะมันง่าย แต่ตอนที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกทำตาม ego ของเราเองหรือไม่นี่สิ มันยากจริงๆ

ไม่รู้สิครับ ผมแค่คิดว่า เพราะเรื่องการหักห้าม ego มันยากนี่แหละครับ มันจึงเป็นตัวพิสูจน์ว่า เรามี maturity ถึงระดับแล้วรึยัง?

ถ้าเรายังตามใจตัวจนไม่เห็นแก่ถูกผิด ก็ไม่แปลกอะไรที่เรายังไม่ก้าวไปไหน ยังคงย่ำต๊อกอยู่กับงานเดิมๆ ตำแหน่งเดิมๆ และความสำเร็จแบบเดิมๆ

ส่วนที่ผมแชร์มานี้ ถูกหรือไม่ ต้องลองถามใจตัวเองดูแล้วล่ะครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...