Post#2-228:
บ่ายวันนี้ผมได้รับเกียรติจากน้องรักคนหนึ่ง ให้มาอยู่ในขบวนสู่ขอเจ้าสาว ^^
ทุกครั้งที่ได้มามีส่วนร่วมในงานแต่งงาน ผมต้องบอกว่า ผมมีความสุขมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะไม่ได้มาเป็นแค่แขก แต่ได้มาร่วมเป็นหนึ่งในขบวนแห่งความสุขแบบนี้
วันธรรมดาของคนทั่วไป หากแต่เป็นหนึ่งในวันสำคัญที่สุดที่เค้าและเธอจะไม่มีวันลืมได้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าบรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความแช่มชื่น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวอยู่ในอาภรณ์และเครื่องประดับอันสวยงามเช่นเดียวกับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน
แต่อาภรณ์ที่โดดเด่นที่สุดของคู่บ่าวสาวหาใช่สิ่งที่ผมกล่าวมา...หากแต่อยู่ที่รอยยิ้มและประกายตาที่ดูแล้วมีความสุขกว่าใครก็ตามในงาน ^^
นอกจากสีหน้าของคุณพ่อคุณแม่ที่ผมชอบดูแล้ว (Post#2-74) ก็มีรอยยิ้มและประกายตาของคู่บ่าวสาวนี่ล่ะครับที่งดงามและติดตาตรึงใจเป็นที่สุด
เป็นรอยยิ้มแห่งความสมหวังและเป็นประกายตาแห่งความหวัง...สมหวังที่วันที่รอคอยจะอยู่ด้วยกันมาถึงแล้ว และมีความหวังที่จะสร้างวันคืนที่ดีๆ ไปด้วยกัน
เป็นรอยยิ้มที่มาจากหัวใจ และเป็นประกายตาที่สะท้อนความปิติจากก้นบึ้ง...ด้วยรอยยิ้มและประกายตาดังว่า ทำให้ค่ำคืนนี้ ไม่มีใครโดดเด่นและมีความสุขมากเท่ากับเค้าและเธอ
...
หนุ่มสาวเอย...เจ้ารอมานานเท่าไร จึ่งเดินทางมาได้ถึงวันนี้ หากภายหน้าเจ้าจะต้องมีเรื่องให้ขัดข้องหมองใจ ก็จงอย่าลืมปิติแห่งสมรส...
เจ้าจงอย่าให้ทิฐิมาลดทอนความเสน่หาที่เจ้ามีต่อกันเลย...เจ้าจงรู้ที่จะผลัดกันถอยเพื่อให้เดินหน้าร่วมกันไปได้
หนุ่มสาวเอย...เรือลำน้อยของเจ้าจะแล่นฝ่านาวาแห่งชีวิตคู่ไปได้ไกลและราบรื่นเพียงใด ก็อยู่ที่เจ้าทั้งสองแล้ว
ทิฐิที่เจ้ามีจึ่งประดุจหินโสโครกที่เจ้าต้องหมั่นสังเกตและหลบหลีก...จงเอาความรักของเจ้าเป็นเข็มทิศ และมีความเข้าใจเป็นหางเสือ
หากเจ้ารักกัน...จงอย่าลืมการให้อภัย
หากเจ้ารักกัน...จงอย่ามัวหลงในอัตตาและทิฐิอันถ่วงรั้ง
หากเจ้ารักกัน...จงทดแทนคำว่า "ฉัน" และ "เธอ" ด้วยคำว่า "เรา"
ดั่งนี้แล้ว...เรือของเจ้าย่อมโลดแล่นไปได้จนสุดขอบฟ้า
...
ขอให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้และรวมไปถึงคู่รักและคู่สมรสทุกคู่บนโลก มีความสุขมากๆ นะครับ ^^
Comments
Post a Comment